logo
search
flag-th
share-icon

ทำไมหุ้น COMMODITY เป็นขาลงแล้ว

☀️THE SUNDAY PAPER : สัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความแตกตื่นให้กับนักลงทุนมากพอควร เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (WTI- BRENT) ปรับตัวลงค่อนข้างแรง แม้นักลงทุนจะพอเดาออกอยู่แล้วว่า วันใดวันหนึ่ง “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” โอกาสที่ราคาน้ำมัน จะปรับตัวลงใกล้จะมาถึงแล้ว

 

🔴ราคาน้ำมัน ถือเป็นตัวชี้วัดราคา #สินค้าโภคภัณฑ์ อื่นๆ ในฐานะที่เป็นต้นทุนของการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ตัวแทนของเงินเฟ้อ และความเสี่ยงต่างๆ บางครั้งก็ส่งผ่านมาทางราคาน้ำมัน เมื่อครั้งที่สงครามยูเครนเกิดขึ้นช่วงแรก ราคาน้ำมันดิบ Brent ขึ้นไป New high ในวันที่ 7 มี.ค. 2565 ที่ระดับ139 เหรียญฯ/บาร์เรล เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโลหะ หรือสินค้าเกษตร ต่างปรับตัวขึ้นไปทำ Newhigh ด้วย

 

🔴แต่สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เราจะเห็นแล้วว่า ปรับตัวลงมาระยะหนึ่งแล้ว จากความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิด Recession จากผลของสงครามรัสเซียยูเครน ที่นำเงินเฟ้อมาสู่ระบบเศรษฐกิจโลกน่าสนใจและมีนัยคือราคาทองแดง ตัวแทนในวัตถุดิบในสายโลหะ ร่วงจากระดับสูงสุดที่ 10,426 เหรียญฯ/ตัน ในเดือน มี.ค. 2565 เหลือ 7,642 เหรียญฯ/ตัน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลงมาถึง 27% เช่นดียวกับสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ปรับตัวลงเช่นกัน หลังรัสเซียเตรียมให้ยูเครนส่งออกสินค้าเกษตรได้

 

📌THE SUNDAY PAPER วันอาทิตย์นี้เราขอสรุป 5 ประเด็นสำคัญของสินค้าโภคภัณฑ์ และผลบวกลบต่อหุ้นในตลาดให้นักลงทุนที่มีการลงทุนหรือกำลังให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มเหล่า เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

 

⛽️ ราคาน้ำมัน : เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบ ลงมาต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน คือ ความต้องการใช้น้ำมันของโลก ชะลอตัวลงโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ ตามภาวะเศรษฐกิจ และเข้าสู่ “Technical Recession” ไปเรียบร้อยแล้ว ด้าน Supply หรือฝั่งของการผลิต OPEC+ และอิหร่าน ถูกคาดว่าจะปั้มน้ำมันเข้าสู่ตลาดมากขึ้นในอนาคต ความสมดุลของตลาดน้ำมันกำลังจะเกิดขึ้น ผู้ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันแพง คือผู้ผลิตน้ำมัน Chevron , Exxon หรือหุ้น PTTEP ต่างปรับตัวลงถ้วนหน้า และฟาดหางมีผลไปถึงหุ้นโรงกลั่นน้ำมันที่เกิดการขายทำกำไร

 

🏭 ถ่านหินและก๊าซ : ประเมินจากสถานการณ์พลังงานของยุโรป อาจไม่น่ากลัวมากอย่างที่คิด เพราะมีการพยากรณ์แล้วว่า คลื่นความร้อน (heatwave) อาจทำให้หน้าหนาวของยุโรปปีนี้ไม่หนาวมาก อีกทั้ง รัสเซีย เองก็ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยังส่งก๊าซให้ยุโรปบ้าง เกมส์นี้หลายคนอ่านออกว่ายุโรป ไม่กล้าทำรุนแรงกับรัสเซีย แม้ราคาก๊าซของยุโรป และราคาถ่านหิน ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้ายังสูง แต่เชื่อว่า โอกาสที่จะกลับไปทำ New high นั้นค่อนข้างยาก และวันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาด้วย ดังนั้นหุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินและก๊าซ จึงน่าจะค่อยๆ ปรับตัวลงตามหุ้นน้ำมัน

 

🔩สินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มโลหะ : วันนี้ ราคาทองแดง สังกะสี เหล็ก อลูมิเนียม ต่างปรับตัวลงมามาก หุ้นที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ ต่างออกไปในทางลบ โชคดีหุ้นไทย หรือของไทย ส่วนใหญ่สินค้าเหล่านี้ เป็นต้นทุนของการผลิตสินค้ามากกว่า ถ้าเป็นตลาดหุ้นไทย จะกลับมาเป็นปัจจัยบวกไป เราจะเห็นนักวิเคราะห์ออกมา Upgrade หุ้น ที่จะมีต้นทุนที่ลดลง อาทิ CBG ที่ใช้อลูมิเนียมในการผลิตกระป๋อง หรือ KCE ที่ใช้ Copper Foil ในการผลิต

 

🌽 ราคาสินค้าเกษตร เป็นสินค้ากลุ่มแรก ที่ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่เกิดการระบาด Covid-19 ในปี 2563 จนถึงช่วงต้นๆ ของสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่ก็เป็นสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มแรกที่ปรับตัวลง ไล่ตั้งแต่ข้าวสาลี ข้าวโพด หรือ ปาล์มน้ำมัน โชคดีที่ไทยได้ประโยชน์จากการเป็นครัวโลก และไม่ได้มีการส่งออกมากนัก เลยไม่ถูกกระทบจากการสูงขึ้นหรือลดลงของราคาสินค้าเหล่านี้

 

ทองคำ เป็นทั้งสินค้าโภคภัณฑ์และเป็นโลหะมีค่าในตัวเอง ทั้งยังเป็นที่ชื่อชอบสำหรับการลงทุนของใครหลายคน โดยก่อนหน้าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ดอกเบี้ยขึ้น(ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น) และความกังวล Recession ได้กดดันราคาทองคำ ร่วงลงไปต่ำสุดที่ 1,681 เหรียญ/ทรอยออนซ์ เมื่อปลายเดือนก่อน แต่เมื่อความกังวลลดลง ดอลลาร์อ่อนค่า ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง กลับมาอีกครั้ง ทำให้แนวโน้มราคาทองคำ กลับมาสดใสอีกครั้งหนึ่ง เราจึงได้เห็นราคาพุ่งทะลุระดับ 1800 เหรียญฯ จะยืนเหนือระดับนี้ได้แค่ไหนต้องจับตาปัจจัยต่างๆที่มีผล การลงทุนทองคำจึงต้องระมักระมัดระวัง

 

🔴โดยสรุปจาก 5 ประเด็นดังกล่าว เรามองว่า น่าจะ “หมดช่วงนาทีทอง” ของสินค้าเหล่านี้ ไปแล้ว เราแนะนำให้ทยอยขายหุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากการสูงขึ้นของราคา เช่น น้ำมัน ถ่านหิน แต่กลับมาสนใจหุ้นที่เคยเสียประโยชน์จากการที่ต้องแบกต้นทุนสูงขึ้นมาหลายเดือน รวมทั้งหุ้นปิโตรเคมีต้นน้ำ ที่น่าจะดีขึ้น เมื่อราคาน้ำมันลดลง แต่เรากำลังเฝ้าดูตัวแปรสำคัญ คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ โดยตรง ถ้าจบได้ “งานเลี้ยงนี้ก็จะจบอย่างถาวร”

กลับสู่ด้านบน

combo-icon

SPECIAL ARTICLE อื่นๆ

ดูทั้งหมด

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์