🚨HOT ISSUE จับตาประเด็นร้อนรอบสัปดาห์ (1-5 ส.ค.2565)

 

🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿แบงก์ชาติอังกฤษขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
ธนาคารกลางอังกฤษ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% สู่ระดับ 1.75% เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 27 ปี นับตั้งแต่ปี 2538 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ทั้งยังออกแถลงการณ์เตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566

 

⛽️ราคาน้ำมันปรับตัวลง
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI และ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ณ วันศุกร์ (5 ส.ค.) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. ปิดที่ 94.92 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในรอบสัปดาห์นี้ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 9.7% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 8.7%

 

แบงก์ชาติออสเตรเลียเตือน ศก.อาจชะลอตัวรุนแรง
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี และ RBA อาจต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และส่งผลให้เป็นการยากที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ

 

🟢โกลด์แมนแซคส์มองตลาดหุ้นจีนยังน่าลงทุน
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวในไตรมาส 3 ปีนี้ รวมทั้งการที่จีนสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ และการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยยังคงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) ในตลาดหุ้นจีน และคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ 24% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

 

📈ราคาทองคำพุ่งทะลุ 1,800 เหรียญฯ
ราคาทองฟิวเจอร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นทะลุ 1,800 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ยังเป็นการแกว่งตัวขึ้นโดยล่าสุเมื่อวันศุกร์ปิดอยู่ที่ระดับ 1,792 ดอลลาร์/ออนซ์