WEEKLY PORTFOLIO
Oct 2, 2023
SET Index outlook • ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ ยังคงผันผวน ขณะที่ต่างประเทศในเรื่องของทิศทางดอกเบี้ย Fed และ เศรษฐกิจจีนที่ยังไม่มีวี่แววฟื้นตัว (ผิดจากที่คาดการณ์ไว้) • ตัวแปรของไทย การอ่อนค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็ว ภายใต้สภาวะดอกเบี้ยสูง และราคา น้ำมันแพง กำลังเข้ามากระทบต่อกำไร 3Q และราคาหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดอีกครั้ง ทำให้ Flow ไหลออกจากตลาด (เอเชีย+ไทย) • การเมืองอยู่ในโหมดการรอคอยมาตรการที่เหลือ ขณะที่นายกฯ เริ่มออกเดินสายเพื่อรับฟัง ปัญหา และแก้ไขในพื้นที่ต่าง ๆ หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ • ราคาหุ้นส่วนใหญ่ (ยกเว้น DELTA) ดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ความกังวลจากปัจจัยลบของตลาดที่มี อยู่รอบด้าน แต่เรายังแนะให้ถือเงินสดไว้ก่อน เพื่อรอจังหวะซื้อหุ้น จุดเข้าซื้อ เรามองไว้ที่ 1450-1460จุด • เรายังมองว่าผลจากเงินบาทอ่อน-ดอกเบี้ยขึ้น-น้ำมันแพง จะกระทบต่อบริษัทที่มีภาระหนี้สูง หรือมีหนี้ต่างประเทศ การเข้าลงทุนควรพิจารณาเป็นรายตัว ว่าปัจจัยลบเหล่านี้ลดทอนกำไร ในงวด 3Q ลง หรือไม่ • นักลงทุนอาจเลือกพักเงินไว้ในหุ้นที่กำไรไม่ถูกกระทบอย่างมีนัยยะจากที่กล่าวไปข้างต้น เช่น กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) หรือจะเป็นพวกที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี ได้แก่ INTUCH, SPALI • พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ ITC, ICHI*, SPRC และนำ JMT เข้ามาแทน พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย JMT(10%), TLI*(10%), BH(10%) - JMT: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 50 บาท) “JMT ยังอยู่ในช่วงของการเติบโตของกำไร”
อ่านต่อ
WEEKLY PORTFOLIO
Sep 25, 2023
SET Index outlook • คาดกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ 1515-1533 จุด (สัปดาห์ที่ผ่านมา 1,522.59จุด /-1.25%) • ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ มีโอกาส Rebound ตลาดรับรู้ทิศทางดอกเบี้ย Fed ไปแล้ว จากนี้ต้องรอดู ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ว่าจะออกมาดี หรือจะเร่งการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ขณะที่จีนยังมองว่ามี แนวโน้มที่ดีขึ้น • ราคาน้ำมัน+Gas เริ่มชะลอ ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก และตลาดหุ้น • ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากนโยบายของภาครัฐฯ –การอ่อนค่าของเงินบาทและ Yield ของ พันธบัตร(ไทย) แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงมากมากแล้ว (เรามองว่ามีโอกาส rebound) • จับตาดู Flow ว่าจะกลับเข้ามาในตลาดหรือไม่ หลังจากการประชุม FOMC หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ • ตลาดน่าจะยังบวกได้ จุดสำคัญคือ ดัชนีฯ ควรยืนเหนือ 1520 จุด ให้ได้ตามที่บอกไว้วันก่อน เป้าถัดไปคือ 1533จุด คำแนะนำตอนนี้ ยังเป็น “ซื้อเก็งกำไร” แต่ขอให้เน้นไปที่ปัจจัยเฉพาะตัว หรือราคาลงมาลึก ไว้ก่อน • หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศ อาจเข้าซื้อในช่วงนี้ ให้ดู IVL,BH, TOP, AOT, SCGP โดยรอซื้อใน จังหวะที่ราคาย่อตัวลงมา • ตลาดยังมีแนวโน้มที่จะบวกหลังลงมาลึกและเข้าสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 3 แล้ว เรามีการ จัดหุ้นใหญ่เข้ามาตั้งแต่วันก่อน และวันนี้ เรานำ SCB และ BA ที่ราคาลงมาลึกๆเพื่อเก็งกำไรถ้า ราคาหุ้นมีการ rebound โดยเงินสดในมือ เรายังเก็บไป 50% • พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำหุ้น BGRIM ออก และนำ SCB, BA* เข้ามาในพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย SCB(10%), BA*(10%), SCGP(10%), GULF(10%), TRUE*(10%) - SCB: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 108 บาท) “ดักช้อนซื้อตอนราคาหุ้นลงมามาก ”
อ่านต่อ
WEEKLY PORTFOLIO
Sep 18, 2023
SET Index outlook • คาดกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ 1540-1560 จุด (สัปดาห์ที่ผ่านมา 1,542 จุด /-0.3%) • ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ นักลงทุนรอดูการประชุม FOMC และแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ว่าจะเป็นอย่างไร หากมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 1ครั้งจะเป็นลบต่อตลาดหุ้น • เราเริ่มเห็นมาตรการเศรษฐกิจของจีน อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เริ่มส่ง สัญญาณฟื้นตัว • ราคาน้ำมันหากปรับตัวขึ้นมาก ๆ ไม่ดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และเป็นส่วนหนึ่งในการเร่งเงินเฟ้อ • ของไทยนักลงทุนยังกังวลต่อนโยบายของภาครัฐฯ ที่เป็นลบต่อหุ้นหลายตัว แต่มีแรงซื้อ กลับมาบ้างในหุ้นราคาลงมามาก ๆ หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ • ตลาดยังไหนไม่ได้ไกล เพราะนักลงทุนยังรอประชุม FOMC วันพุธนี้ อีกทั้งนโยบายรัฐบาล ออกมาในทางลบ ทำให้การลงทุนยังต้องเน้นเล่นสั้นๆ ไปก่อน • หุ้นที่อิงจีน เริ่มมีแรงซื้อกลับ ถ้าจะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มนี้ sector ที่จะได้ประโยชน์ จะเป็น เดินเรือ (PSL), โลจิสติกส์(WICE, LEO) ปิโตรเคมี (IVL) โดยจะต้องตามข่าวของจีน อย่างใกล้ชิด • คงเงินสด 50% ไว้ต่อไป เพื่อรอดูการประชุม FOMC และเราเองให้น้ำหนักกับการฟื้นของหุ้น จีนมากขึ้น (TOP, IVL) และวันนี้ เราเพิ่ม BEM เข้ามาเพราะยังเชื่อในเรื่องการกระตุ้นการลงทุน ของรัฐบาล • พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำหุ้น RBF*, CBG ออก และนำ BEM เข้ามา พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย BEM(20%), TOP(10%), IVL(10%), ADVANC(10%) - BEM : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท) “ BEM อาจไม่ต้องแบกค่าโดยสาร 20 บาท ”
อ่านต่อ
WEEKLY PORTFOLIO
Sep 11, 2023
SET Index outlook • คาดกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ 1540-1570 จุด (สัปดาห์ที่ผ่านมา 1,547.17จุด /-0.91%) • ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ ประเมินดัชนียังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ ต่างประเทศยังคงกังวลกับ ดอกเบี้ยของ Fed ขณะที่นักลงทุนรอดูเงินเฟ้อสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์ • สถานการณ์เศรษฐกิจของจีนยังน่ากังวล หลังจากไร้มาตรการช่วยหนุนเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งยังเป็นตัวฉุดตลาดหุ้น และหุ้นที่เกี่ยวข้อง (เดินเรือ + โลจิสติกส์) • ตลาดหุ้นไทย หันมาให้ความสนใจกับการทำงานของ ครม. กันมากขึ้นใน 2กระทรวงใหญ่ คือ คลัง และคมนาคม จากการพูดถึงนโยบายที่ออกมา คาดว่าน่าจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจ (ตลาด หุ้น) มากกว่าที่กังวลก่อนหน้านี้ หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ • ตลาดจะยังคงแกว่ง sideway รอการแถลงนโยบายของรัฐบาลวันนี้ (11) ตลาดต่างประเทศยัง มีความกังวลในเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดย FOMC จะประชุมสัปดาห์หน้า (20) การลงทุนในเวลา นี้ จึงต้องเน้นเล่นสั้น ให้น้ำหนักกับหุ้นที่เป็น Domestic Play ไว้ก่อน • เราคง list หุ้นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ มีสัญญาณซื้อกลับ ไว้ทั้ง 3 ตัว คือ GULF, ADVANC, AWC • ตลาดผันผวนในระหว่างวันค่อนข้างมาก เราคงหุ้นเดิมไว้ และนำ SCGP ที่ laggard คือราคา ขึ้นน้อย กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัว เข้ามา โดยยังเน้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ไปก่อน และคงเงินสด (40%) ไว้เพื่อรอซื้อหุ้น หลัง 11ก.ย. • พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำหุ้น SCGP เข้ามา และคงหุ้นที่เหลือไว้ทั้งหมด พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย SCGP(10%), CRC(10%), NEX(10%), BH(10%), BANPU(10%), BGRIM(10%) - SCGP: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 42 บาท) “เล็งกำไรฟื้นตัว”
อ่านต่อ
WEEKLY PORTFOLIO
Aug 28, 2023
SET Index outlook • คาดกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ 1540-1570จุด (สัปดาห์ที่ผ่านมา 1,560.20 จุด /+2.70%) • ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ คาดจะเริ่มมีความคึกคักขึ้น หลังจากผ่าน Event สำคัญมาแล้ว (เลือก นายกฯ + Jackson Hole+ Thailand Focus) นักลงทุนน่าจะกลับมาตัดสินใจได้แล้วว่าควร ซื้อหุ้น หรือขายหุ้น • ความกังวลดอกเบี้ยยังอยู่ในตลาด หลังจากที่ Fed ยังมีทีท่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่นักลงทุน รับรู้มาพอสมควรแล้ว • รอดูการหารือระหว่างจีน-สหรัฐ ในเรื่องปัญหาทางการค้า หากออกมาดีจะเป็นตัวช่วยหนุน ตลาดหุ้น และ Demand จะเริ่มกลับมา (ล่าสุด Brent $83.7 เหรียญ) • ตลาดหุ้นไทย ยังคงอิงกับหน้าตา ครม.ชุดใหม่ ยังมองโทนตตลาดเป็นบวก กอปรกับเริ่มมีแรง ซื้อหุ้นที่ปันผลดี เนื่องจากตลาดอยู่ช่วงการขึ้น “XD” หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ • ตลาดรับรู้ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ แต่การเมือง ยังติดในเรื่องการตั้ง ครม.อยู่ จะทำให้ตลาดยัง ออกแนว sideway คือ trading ช่วงสั้น • เม็ดเงินส่วนใหญ่ จะเข้ามาเก็งกำไรหุ้น Domestic Play มากขึ้น เพราะหุ้นอิงต่างประเทศ มี ปัจจัยลบคอยกดดัน โดย 4 ตัวที่เราเห็นโอกาสในการในการเก็งกำไร ได้แก่ BGRIM, JMT, SAWAD, EA • พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ BEM, GUNKUL, FORTH* ออก และนำ BDMS, TISCO เข้ามาในพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย BDMS(10%), TISCO(10%), SISB(20%), KTB(20%), JMT(10%) - BDMS : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 29.00 บาท) “ กำไรขยายตัวสะท้อนถึงผู้ป่วย Non-Covid เพิ่มขึ้น”
อ่านต่อ
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์