SET Outlook
- คาด ดัชนีฯ แกว่งรอ ครม.ใหม่ออกมาตรการเศรษฐกิจ ตลาดต่างประเทศยังกังวลทิศทางเศรษฐกิจ
- ตลาดหุ้นต่างประเทศ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนวันศุกร์ คือตัวเลข non-farm payroll ที่จะชี้วัดวัดสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่ายังดีอยู่หรือไม่ ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง คาดวันนี้ยังถูกกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจ ส่วนของไทย หุ้นขนาดใหญ่ดีดตัวกลับมาพร้อมสัญญาณการตั้ง ครม.ชุดใหม่ ทำให้ตลาดหุ้นน่าจะจบการปรับฐานแล้ว จากนี้ ดัชนีฯ น่าจะเดินหน้าเข้าสู่ 1380 และ 1400 จุด ตามลำดับ
- ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ของสหรัฐฯ บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มความกังวลในเรื่องทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯมากขึ้น วานนี้ กรรมการ Fed (นาย Bostic) ก็แสดงความกังวลในตลาดแรงงานด้วย ....... ตลาดหุ้น(สหรัฐฯ) อาจไม่บวกมากนัก เพราะนักลงทุนจะกังวลทิศทางเศรษฐกิจมากกว่าดีใจเรื่องการลดดอกเบี้ย แต่ตลาดพันธบัตร จะเป็นบวกมากกว่า ถึงขั้นพูดกันว่า อาจมี Jumbo Fed cut คือลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. มากกว่า 0.25% คืนที่ผ่านมา Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ ปิดที่ 3.75% ลดลงจาก 2 วันก่อนหน้านี้ ที่ 3.91%
- กระทรวงการคลัง เล็งออกออกกฎหมาย เก็บภาษีเงินได้ บริษัทข้ามชาติไม่น้อยกว่า 15% เพื่อลดการแข่งขันทางภาษีระหว่างประเทศ เร่งดัน พ.ร.ก. บังคับใช้ภายในปี 2568
- ครม. "แพทองธาร 1" ได้รับโปรดเกล้าฯ จากในหลวงเรียบร้อยแล้ว มีรมต.ทั้งสิ้น 35 คน รวม 39 ตำแหน่ง (ไม่นับรวมนายกฯ) ประกอบด้วยรมต.จากพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรค และ 1 กลุ่มการเมือง ทั้งนี้ นายกฯ เตรียมนำครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ 6 ก.ย. นี้ และเรียกประชุมครม.นัดพิเศษ 7 ก.ย. อนุมัติร่างแถลงนโยบาย
- Digital Wallet นายจุลพันธ์ รมช.คลัง เผย รัฐบาลอาจปรับรูปการแจกเงิน ใช้เงินสดบางส่วนเพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความปลอดภัย ส่วนรูปแบบทั้งหมดรอการพิจารณาร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง
- ธปท. เปิดเผยรายงานการประชุมกนง. โดยคณะกรรมการเห็นว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวตามคาด แต่มีความกังวลเรื่องการชะลอของการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออก ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 67 ทั้งนี้ คณะกรรมการมีมติ 6 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ย 2.50% โดยมี 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อบรรเทาภาระหนี้ และสนับสนุน SMEs
- กกร. ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกปีนี้เป็น 1.5-2.5% จากเดิมที่ 0.8-1.5% หลังส่งออกก.ค.67 โตถึง 15.2% จากแรงหนุนของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลก และคาดว่าสถานการณ์น้ำและอุทกภัย จะมีความเสียหาย ช่วงส.ค.-ก.ย. รวม 6-8 พันล้านบาท หรือ 0.03-0.04% ของจีดีพี ภาคเกษตรได้รับผลมากที่สุด
- รมว.แรงงาน ยืนยันบอร์ดค่าจ้างเคาะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ 400 บาท ในบางกลุ่มอาชีพ เริ่มบังคับใช้ 1 ต.ค. มองหลายบริษัทปิดกิจการ จากหลายสาเหตุ ไม่เกี่ยวกับการปรับค่าจ้าง ...... หากธุรกิจใดที่อยู่ในตลาดหุ้น มีการปรับขึ้นค่าแรง ก็จะเป็นลบต่อหุ้นตัวนั้นๆ ทั้งนี้ หุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อการปรับค่าแรง จะเป็นกลุ่มรับเหมาฯ โรงแรม ร้านอาหาร และโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท(ส่วนใหญ่จะจ่ายเกินค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว)
- Event สำคัญวันนี้ : ตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (คาด +0.42% yoy ; เดือนก่อน 0.83%) และตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ (คาด +135k ; เดือนก่อน +122k)
Strategy
- ดัชนีฯ วานนี้ ตอบรับต่อการแต่งตั้ง ครม.ในระดับที่ต่ำกว่าที่คาด แต่ถึงกระนั้น น้ำหนักของตลาด น่าจะยังไปในทางบวกได้ แบบ sideway up เป้าหมายดัชนีฯ จุดแรก จะยังเป็น 1380 จุด ..... กลยุทธ์ ดัชนีฯ น่าจะกลับมาเป็นบวกตามเงื่อนไข ที่ว่า “ตลาดปรับฐานจบ” เราแนะนำ เป็นทยอยซื้อหุ้น
- list ของหุ้น ที่น่าสนใจวันนี้ จะเป็น TRUE*, ADVANC, GULF, CPAXT, CPALL, CRC และ COM7
- หุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงค์จากการซื้อกลับ หลังถูก Short มามาก คือ TISCO, AOT
- หุ้นในพอร์ตวันนี เรานำ SCGP, CBG เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย SCGP(10%), CBG(10%), CPALL(10%), KBANK(10%), AOT(10%)
Technical : TIDLOR, SCL
News Comment:
( + ) Energy (Neutral) OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนการขึ้นกำลังการผลิตน้ำมัน 180 kbd ในเดือน ต.ค.ออกไป
( + ) Bank (Neutral) ธปท. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ฉบับปรับปรุง
( - ) Construction Services (Neutral), Agri & Food (n.r.) รมว.แรงงาน ยืนยันค่าแรง 400 บาทในบางกลุ่มอาชีพ เริ่ม 1 ต.ค. นี้
Company Update:
( 0 ) MENA (ถือ/เป้า 1.11 บาท) แนวโน้มฟื้นตัวใน 2H24E แต่ราคา rebound สะท้อนไปพอสมควร