SET Outlook

• คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลง นักลงทุนรอข่าวบวกใหม่ๆ ส่วนใหญ่ trading ช่วงสั้นๆ

• ตลาดหุ้นไทย ยังไปไม่ถึงฝัน(1400 จุด) นักลงทุนสลับตัวเล่นรายวันค่อนข้างชัดเจน จะทำให้ดัชนีฯ ไปไหนไม่ได้ไกล ตัวแปรสำคัญๆ ส่วนใหญ่ในต่างประเทศจะเป็นลบ ปัจจัยภายใน เริ่มเข้ามาเก็งงบ 4Q แล้ว ซึ่งจะเน้นไปที่หุ้นธนาคาร ก่อน ส่วนกลุ่มค้าปลีก คาดยังเป็นกลุ่มช่วยประคองตลาดไม่ให้ลงแรง

• สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า หลังการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. นายทรัมป์อาจใช้คำสั่งประธานาธิบดีตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economic Emergency Powers Act) หรือ IEEPA เพื่อประกาศใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษี โดย IEEPA จะให้อำนาจประธานาธิบดีในการควบคุมการนำเข้าสินค้าในยามที่สหรัฐประสบวิกฤตการณ์

• ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ แกว่งมาก มีความกังวลเพิ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ พันธบัตร 10 ปี ขึ้นแตะ 4.7% ขณะที่ Dollar Index กลับขึ้นมาที่ 109 จุดอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่า นักลงทุนมีความกังวลต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ ......  เราประเมินว่า 3 ความกังวล ที่ทำให้ตลาดสหรัฐฯออกอาการนี้ คือ กลัวเงินเฟ้อ กังวลนโยบาย Trump และ กังวลหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้น

• ราคาน้ำมัน เริ่มแผ่ว Brent ล่าสุด $76.1 เหรียญ  ราคาหุ้นผู้ผลิตน้ำมัน(สหรัฐฯ) ปรับตัวลง  แม้ stock น้ำมันดิบ โดย EIA จะออกมาลดลง 9 แสนบาร์เรล ก็ตาม ....  เรามองว่า อาจมีผลลบมาถึงหุ้นน้ำมัน PTTEP ของไทยได้

• รัฐบาลจีนเพิ่มเงินอุดหนุนสินค้า 15% สำหรับซื้อโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสมาร์วอทช์ที่ราคาต่ำกว่า 6 หยวน(จำกัด 500 หยวนต่ออุปกรณ์ 1 ชิ้น) อุดหนุนเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มจาก 8 เป็น 12 ประเภท และต่ออายุโครงการแลกรถเก่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด หลังปีก่อนทำยอดขายได้กว่า 3.7 ล้านคัน พร้อมอุดหนุนการอัพเกรดอุปกรณ์อุตสาหกรรม เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รับมือกับกับอุปสรรคด้านการส่งออก

• กกร. คาดเศรษฐกิจไทยปี ’68 โต 2.4-2.9% การส่งออกในปีนี้ คาดโต 1.5-2.5% ต่ำกว่าปี ’67 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ระดับต่ำ 0.8-1.2% มองเศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังต้องอาศัยการท่องเที่ยวเป็นแรงผลักดันหลัก โดยคาดนักทองเที่ยวเข้าไทย เพิ่มขึ้นเป็น 39 ล้านคน มองไทยโตต่ำกว่าศักยภาพจากปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือนสูง

• คลัง ส่งสัญญาณสนับสนุนใช้เงินดิจิทัลมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้า โดยเบื้องต้นจะทำการทดสอบในวงจำกัด (sandbox) ที่จ. ภูเก็ต ในขั้นตอนที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย แต่หากต้องปรับตัวบทกฎหมายจะดำเนินการภายในปีนี้แน่นอน ซึ่งปัจจุบันบิทคอยน์มี 21 ล้านเหรียญ เทียบเท่ากับ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่ความเคลื่อนไหวจริงต่อวันไม่ถึง 10 ล้านเหรียญ คิดเป็นสภาพคล่องประมาณ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

• Event สำคัญ วันนี้ : รายงานประชุม FOMC และตัวเลขเงินเฟ้อของจีน

 

Strategy

• ตลาดยังผันผวนไร้ทิศทาง คาดกรณีของ RS และหุ้นหลายๆตัวที่เกิดลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้ รบกวนบรรยากาศการลงทุน  .......ควรปรับกลยุทธ์ เลือกขายหุ้นออกไปบ้าง หรือเล่นสั้นๆ เฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง

• หุ้นขนาดใหญ่ที่เอาไว้ Trading ช่วงสั้นๆ เราตัด DELTA, SCB ออก  เหลือแค่ GULF, ADVANC และ BGRIM

• หุ้นธนาคาร น่าจะได้ประโยชน์จากการที่ Fed จะชะลอการลดดอกเบี้ย แต่ราคาหุ้นกลุ่มนี้ ขึ้นมาค่อนข้างมาก  .... นักลงทุนควรดูว่า Dividend yield ของตัวเองที่ได้ตอนนี้ น้อยกว่า capital gain หรือไม่ ถ้าน้อยกว่า อาจเลือกขายทำกำไรช่วงสั้นไปก่อนก็ได้

• Easy E-Receipt 2.0  หรือซื้อสินค้าเพื่อนำมาลดหย่อนภาษี 5 หมื่นบาท โดยส่วนที่จะเกี่ยวกับหุ้นในตลาด จะเป็นส่วนของ 3 หมื่นบาท ที่ซื้อสินค้าทั่วไป.....  หุ้นเหล่านี้ กำไร 4Q อาจเห็นผลของการชะลอการซื้อเพื่อรอใช้สิทธิ แต่จะมาเห็นในงบ 1Q หุ้นได้ประโยชน์ อาทิ HMPRO, CRC, COM7,CPAXT, CPN

• นักลงทุนอาจเข้ามาเก็งกำไร งานสัมมนางานหนึ่ง 13 ม.ค. ที่คุณทักษิณ จะขึ้นพูดด้วย เราประเมินว่าหุ้นค้าปลีก อาจเป็นกลุ่มที่จะมีการพูดถึงหรือได้อานิสงค์จากแนวคิด เหมือนการขึ้นเวที เมื่อเดือน ส.ค.ปีก่อน

• หุ้นในพอร์ตวันนี้  เรานำ PTTEP, BDMS*, CCET* ออก หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย TRUE*(10%), BTS*(10%), HMPRO(10%)

 

Technical  : MASTER, TLI

 

News Comment:

( + ) AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) ผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ยังเติบโตดี +20% YoY

 

Company Update:

( - ) ITC (ปรับลงเป็น ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 22.50 บาท) กำไรปกติ 4Q24E ชะลอ QoQ, 2025E ถูกกดดันจากเกณฑ์ GMT ตาม TU