• คาดดัชนีฯ ปรับตัวลงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว นำโดยหุ้นอสังหาฯ  แต่หลังจากนี้ จะค่อยๆดีขึ้น

• ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นตัวแปรหลักที่ส่งผลกระทบตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ คาดตลาด จะปรับตัวลงในวันจันทร์ก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจสิ่งก่อสร้าง-อาคาร-ที่อยู่อาศัย ส่วนต่างประเทศสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน คือ  PMI ประเทศจีน และ Non-farm Payroll ของสหรัฐฯ รวมถึงการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าทรัมป์ที่คาดว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติมอีก ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ ไว้ที่ 1150-1185 จุด

• เหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มี.ค. 68 ทำให้ "แผ่นดินไหว" กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ต่อตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นโดยรวมไม่น่าจะเกิด Panic Sell ยกเว้นแรงขายหุ้นที่เกี่ยวข้องทางตรง/อ้อม กับสถานการณ์ครั้งนี้ ได้แก่ ธุรกิจอสังหาฯ ที่เน้นคอนโดฯ สูงอาจได้รับผลกระทบมากขึ้น รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยว-ผู้รับเหมาก่อสร้าง (โดยเฉพาะ ITD) -ค้าปลีกในภาคเหนือ (ที่ให้ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว) และบริษัทประกันภัยที่อาจมีการเคลมเพิ่มขึ้น.....หากคิดเฉพาะผลกระทบ จากราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯ จะมีการปรับตัวลงในวันจันทร์ เนื่องจากมี Market Cap 5.0% ของตลาด (SET Index) ทุกๆการปรับตัวลง/ขึ้น  +/-1.0%  จะมีผลต่อดัชนีฯ +/-0.6 จุด  (ถ้าคิดกรณีเลวร้ายสุดของหุ้นกลุ่มอสังหาฯ กลุ่มเดียวในวันจันทร์ หากปรับตัวลง 30% จะมีผลต่อดัชนีฯ ราว -18 จุด)

• นโยบายการค้าสหรัฐฯ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ในสัปดาห์นี้ ปธน.ทรัมป์ เล็งประกาศบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าหลายรายการ เช่น มาตรการภาษีนำเข้ารถยนต์ มาตรการภาษีนำเข้าต่อผู้ซื้อน้ำมันจากประเทศเวเนซุเอลา มาตรการภาษีนำเข้าทองแดง มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่คาดว่าจะประกาศเรียกเก็บเฉพาะผู้ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ .... มาตรการดังกล่าวสร้างความผันผวนกับตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศที่ส่งรถไปขายยังสหรัฐฯ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งเราคาดว่าในสัปดาห์นี้ยังจะมีการประกาศบังใช้ภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอีก

• ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบปะกับ CEO ระดับโลก (รวมถึง FedEx, Standard Chartered, Sanofi) ไปเมื่อวันศุกร์(28) โดยจีนพยายามดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ ...  เรามองเป็นข่าวบวกของตลาดหุ้นจีน ลดผลกระทบจากความกังวลในเรื่อง มาตรการภาษีของสหรัฐฯลงไประดับหนึ่ง

 • ต่างประเทศสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลข PMI ของจีน (ครั้งก่อน 50.2) หากครั้งดีปรับตัวขึ้นอีกก็จะมีต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีน ด้านสหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลข Nonfarm Payrolls (ครั้งก่อน 151k) หากปรับขึ้นอีกก็จะดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ต้องระวังเงินเฟ้อที่จะมีผลตตามมาด้วย ซึ่งจะส่งผลกับการตัดสินใจนโยบายดอกเบี้ยของ Fed 

• สัปดาห์นี้ จะเป็นการเข้าสู่วันแรกของไตรมาที่ 2/68 และเป็นผ่านการปิดงบไตรมาสที่ 1/68 ตลาดจะมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วหากสัปดาห์ก่อนขึ้นไตรมาสใหม่ดัชนีฯ ตก สัปดาห์ถัดไปดัชนีฯ จะปรับตัวขึ้น แต่คาดครั้งนี้ดัชนีฯ จะปรับตัวลง เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินเมื่อ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

• GULF กลับมาเทรดอีกครั้ง 3 เม.ย. 68 หลังจากถูกพักการซื้อขาย (SP) ไปเมื่อ 21 มี.ค.-2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย GULFI เป็นชื่อย่อหลักทรัพย์ชั่วคราวของ GULF ที่ใช้ระหว่างช่วงการควบรวมกิจการกับ INTUCH ที่ใช้ในช่วงขึ้นเครื่องหมาย SP .... คาดว่ากลุ่มในกลุ่มนี้จะกลับมาเทรดกันคึกคักอีกครั้ง เราคำนวณราคาหุ้น GULF ที่จะกลับมาเทรด โดยใช้ราคาอ้างอิงราคาปิดสุดท้ายที่ 56.56 บาทต่อหุ้น

• สัปดาห์นี้ มีหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย “XD” ทั้งหมด 10 หลักทรัพย์ อาทิ SCC, SCGP, SONIC, SCGD เป็นต้น ควรระวังแรงขายหุ้นทั้งก่อนและหลัง “XD” ทั้งนี้ หากราคาหุ้นที่จะขึ้น “XD” ปรับตัวลงเท่ากับเงินปันผลจ่าย จะมีผลต่อดัชนีฯราว 0.4 จุด

• Event วันนี้ : ตัวเลข PMI ของจีน(31)  ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ.ของไทย โดย ธปท.(31) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ(4)

 

• ตลาด เจอเรื่องแผ่นดินไหว กลายเป็นปัจจัยลบตัวใหม่ของตลาดไปเลย ความรุนแรงยังประเมินได้ยาก หุ้นกลุ่มอสังหฯ น่าจะถูกกระทบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ   .....  กลยุทธ์ ชะลอการลงทุนรอดูสถานการณ์ แต่ให้รอจังหวะซื้อหุ้นพื้นฐานและอนาคตดี ในจังหวะที่นักลงทุนกำลังตกใจ (panic sell)

• การร่วงลงของดัชนีฯ ครั้งนี้ อาจเป็นการสร้างจุดต่ำสุดให้กับตลาด (เพราะเคยเกิดแบบนี้มาแล้ว) นักลงทุนที่รอซื้อหุ้นอยู่ จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นเหล่านี้ ทั้งนี้ list ของหุ้นในเชิงกลยุทธ์ หุ้น 4 ตัวแรก ที่ควรนึกถึง คือ ADVANC , CPALL, SCB, BH

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นทั้งหมดไว้  หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย SCB(10%), PTT*(10%), TTB(10%)

 

News Flash:

( -/+ ) หุ้นที่คาดว่าจะได้รับ sentiment เชิงลบและบวก ระยะสั้น จากแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาครั้งนี้

( - ) Bank (Overweight) ธปท. ขอความร่วมมือจาก Bank ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

 

( 0 ) DOHOME (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 7.50 บาท) แนวโน้ม 1Q25E SSSG เป็นบวกได้เล็กน้อย และคาดเห็นการขยายสาขาเร็วสุดใน 2Q25E