THE SUNDAY PAPER : กระแสข่าวที่พูดถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์จากรัสเซียโดยชาติตะวันตก (ซึ่งหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น ) เป็นนัยที่ตอบย้ำว่า สถานการณ์โลกกำลังเกิดความสบสนมากมายและมากขึ้น ทั้งคาดเดาได้และคาดไม่ได้ แต่ทุกเรื่องจะกระทบถึงเศรษฐกิจการเงินอย่างแน่นอน... เศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยตลอดช่วง 9 เดือนเข้าสู่เดือนที่ 10 ฝ่าฟันอะไรมาบ้างและสะท้อนนัยอะไรให้เราได้เห็นจากนี้
ต้นปีเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยเจอปัจจัยสำคัญๆ ไล่มาตั้งแต่ 1.) การเปิดฉากบุกยูเครนของรัสเซียในเดือน ก.พ. 2.) เกิดแรงขายสินทรัพย์ทั่วโลกในเดือน มี.ค. จากความกังวลเรื่องสงครามในยูเครน 3.) ในเดือน มี.ค. FED เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และ จีน Lockdown เมืองเซินเจิ้น 4.) เกิดการ Lockdown เมืองปักกิ่งของจีน มาจนถึงช่วงที่ตลาดหุ้นโลกเกิดความกังวลมากขึ้น คือ 5.) ในช่วงเดือน มิ.ย. - ส.ค. เงินฟ้อของสหรัฐฯพุ่งสูง พร้อมกับสงครามในยูเครนรัสเซียตรึงเครียดขึ้น ลามไปสู่การหยุดจ่ายพลังงานให้ยุโรป จนถึงในเดือน ก.ย. ตลาดเกิดความกังวลจาก FED ขึ้นดอกเบี้ยแรงจนดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก
ในช่วง 9 เดือนดังกล่าว SET Index ปรับตัวลงมาถึงจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,535 จุด ในเดือน ก.ค. ขณะเดียวกันมูลค่าตลาด (Market Cap) ของตลาดหุ้นโลกตัวลดลงถึง 26% และเกือบจะกลับไปเท่ากับปี 2019 จากผลกระทบดังที่กล่าวมา
ขณะที่เศรษฐกิจไทยที่ถูกกระทบจาก Covid-19 แต่ปี 2023-2524 ก็ฟื้นตัวกลับได้ แต่มีตัวแปรที่จะทำให้ GDPโตต่ำกว่าประเทศอื่นในเอเชีย ได้แก่
การปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยให้สอดคล้องกับสถานการณ์และนโยบายการเงินของต่างประเทศ แต่มีผลที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวได้เช่นกัน
เงินบาทที่อ่อนค่า เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าเป็นความเสี่ยงให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเพราะกลัวขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
การท่องเที่ยวยังถูกกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ทั้งใน และต่างประเทศ หากการท่องเที่ยวฟื้นตัวจะหนุนช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจได้
สถานการณ์ยูเครนกับรัสเซีย ที่ส่งผลมายังราคาสินค้าพลังงาน การค้า และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ปัจจัยการเมืองไทย ที่เข้ามารบกวนตลาดหุ้นเป็นระยะ หลังผ่านเรื่องการดำรงแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่ตัดสินไปแล้ว จากนี้จะเป็นเรื่องการยุบสภาฯ (คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.) และความคาดหวังในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2023
DAOL SEC มองตลาดอย่างไร ?
เรามองว่า ระดับ P/E ของตลาดหุ้นทั่วโลก (MSCI World Index) ที่แม้ว่าลงมาแตะจุดต่ำสุด แต่เมื่อดูกำไรตลาดถือว่ายังดีอยู่ หมายความว่า ในช่วงก่อนหน้านี้นักลงทุนขายหุ้นเพราะความกลัวปัจจัยลบในอนาคต ทาง DAOL SEC มองว่าหากตัวแปรที่กดดันตลาด รวมถึงกำไรตลาดไม่ได้แย่ลงมาก นักลงทุนก็พร้อมที่จะกลับมาเข้ามาซื้อทันที
ไตรมาส 4 จะเป็นอย่างไร..?
ตัวแปรสำคัญในไตรมาส 4 ที่จะมีผลมาถึงหุ้นไทย DAOL SE วิเคราะห์ไว้ดังนี้
สงครามยูเครน-รัสเซีย
ถ้าจบลง : เศรษฐกิจโลกจะกลับมาฟื้นตัว แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) จะปรับตัวลง / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ ตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับมาเป็นบวก หุ้นกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ มีโอกาสฟื้นตัว
ถ้ารบกันต่อ : ปัญหาด้านพลังงานจะดำเนินต่อไป ดันเงินเฟ้อให้สูง และมีผลต่อนโยบายการเงินของ Fed และธนาคารกลางทั่วโลก / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ หุ้นไทยที่มีรายได้จากยุโรป และต่างประเทศจะถูกกดดันต่อ แต่หุ้นกลุ่มพลังงานจะได้อานิสงส์จากสินค้าพลังงานที่ปรับตัวขึ้น
นโยบายการเงินของ Fed
Fed ขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าที่ตลาดคาด : เศรษฐกิจมีโอกาสที่จะเกิด Recession สูง / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ เป็นลบต่อตลาด ต้นทุนเศรษฐกิจสูงขึ้นจะฉุดเศรษฐกิจโดยรวมให้แย่ลง
Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.50%-0.75% รวมถึงขึ้นครั้งต่อไปน้อยกว่านี้จะดีกับตลาด เพราะโอกาสเกิด Recession จะน้อยลง / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ เป็นบวกต่อตลาดจากการรับรู้ไปบ้างแล้วและไม่ได้กระทบต่อเศรษฐกิจในเชิงลบมากนัก
การเมืองไทย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังดำรงตำแหน่งนายกได้ต่อ ทำให้การบริหารราบรื่น แต่อาจจะทำให้เกิดการประท้วง / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ ถ้ามีการประท้วงอาจจะไปลดถอนความเชื่อมั่นในการลงทุนของต่างชาติ
การยุบสภาฯ คาดเกิดขึ้นเร็วสุด คือ หลังการประชุม APEC 2022 เดือน พ.ย. / ผลต่อตลาดหุ้นไทย คือ คาดจะไม่ได้กระทบต่อตลาดมากนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้ถึงเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว และการเมืองไทยเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง (อาจเปลี่ยนขั้วในการตั้งรัฐบาล)
อีกตัวแปรสำคัญคือ ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวบวกลบตามตามแรงซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ในไตรมาส 4 หุ้นกลุ่มไหนที่ต่างชาติเข้าซื้อ-ขาย รวมถึงหุ้นตัวไหนบ้างที่ DAOL SEC เราแนะนำ เพื่อเล่นรับการ Rebound ของตลาดรอบนี้ ...
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์