logo
search
flag-th
share-icon

เช็คกลุ่มหุ้นต้องระวัง ! เมื่อ’ดอกเบี้ย’และ’ค่าเงิน’เขย่าเศรษฐกิจโลก

☀THE SUNDAY PAPER : แม้ผลจะออกมาตามที่คาดไว้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน ก.ย. 2565 แต่ในวันเดียวกัน มาพร้อมเรื่องที่คาดไม่ถึง รัสเซียประกาศระดมกำลังพลเพื่อทำเตรียมศึกกับยูเครนอีกครั้ง

 

🔴นั่นคือ ปัจจัยเสี่ยงที่กดดันเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะยุโรป) จากสงครามของยูเครนกับรัสเซียเรื่องพลังงานยังมีต่อไป เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่ ‘เปลี่ยนไปอีกครั้ง’ ว่าอาจขึ้นไปถึงระดับ 4% กว่าในปีหน้า ซึ่งเวลานี้ อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ขึ้นไปยืนที่ระดับ 3% เป็นที่เรียบร้อย แต่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น กระทบมาถึงค่าเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียรวมทั้งไทยอ่อนค่าลงอีก 

 

🔴แรงกดดันจาก 'อัตราดอกเบี้ย' และ 'ค่าเงิน' จะมีกับตลาดหุ้นมากขึ้นอย่างแน่นอนจากนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามลำดับ ต่อตลาดหุ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯถูกคาดการณ์ว่าจะขึ้นยืนที่ระดับ 4-4.2%  คือ 

👉 เงินบาทจะอ่อนค่าลงเพราะดอลลาร์ที่แข็งค่ามากขึ้น--> ความเสี่ยงที่เกิดภาวะ Recession ในสหรัฐฯและยุโรปจะมากขึ้น (โอกาสที่สหรัฐฯจะเกิด Recession อยู่ที่ 50% แต่ยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 70% )  ผลที่ตามมาคือ --> กำลังซื้อจะลดลงทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และนำไปสู่  --> การเทขายสินทรัพย์ของนักลงทุนในตลาด เพื่อหนีความเสี่ยงในที่สุด !! 

📌DAOL SEC ประเมินสถานการณ์ "ดอกเบี้ยสูง" และ "ค่าเงินบาทอ่อนค่า" จะกระทบต่อหุ้นไทยอย่างไร ในกลุ่มใดบ้าง ? ดังนี้

 

🔴กลุ่มที่ได้ปัจจัยลบและ “ต้องระวัง” ได้แก่
🏭 หุ้นที่ถูกประเมินราคามูลค่าด้วยส่วนลดกระแสเงินสด : เช่นโรงไฟฟ้า 
🏢 หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์/รีท : ที่ถูกประเมินมูลค่าในบางกองทุน อาจเป็นผลให้NAVลดลงได้
⛽️ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ : กลุ่มกระทบมากคือกลุ่มปลายน้ำ เช่น ปิโตรเคมี ทองแดง อลูมิเนียม กลุ่มนี้จะกระทบมากหากเกิดภาวะ Recession  ส่วนกลุ่มต้นน้ำ อย่าง น้ำมัน ถ่านหิน แก๊ส ยังไม่ได้กระทบมาก เพราะมีปัญหาด้าน supply ช่วยหนุนราคาไว้ แต่แนะนำเป็นการเก็งกำไรสั้นๆ 

🖋 กลุ่มเช่าซื้อ : ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อาจลดความต้องการซื้อลง 
ทองคำ : ได้รับผลกระทบทั้งจากดอกเบี้ยขึ้นและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 
💰 กลุ่มที่มีเงินกู้ต่างประเทศที่เป็นดอลล่าร์ : จะถูกกระทบเพราะเงินบาทอ่อน
🟢ส่วนกลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกบ้าง เช่น 
🏦 กลุ่มธนาคาร : เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยปรับขึ้น
🚢 กลุ่มส่งออก : กลุ่มนี้ต้องบอกว่าไม่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าทั้งหมด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ กำลังซื้อและการผลิตจะลดลงตามไปด้วย เช่น ยางพารา สินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก จะเป็นบางกลุ่มเช่น อาหารสัตว์ สินค้าแปรรูป

 

🔴จะเห็นว่าในเดือน ก.ค. อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯถูกคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.25% แต่ในเดือน ก.ย. ล่าสุดถูกคาดการณ์เปลี่ยนไปว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึงระดับ 4.66% ในปีหน้า เป็นภาพที่เกิดเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ 2 เดือน นั่นหมายความว่าเป็นปัจจัยที่ตลาดไม่ได้คาดการณ์ไว้ขนาดนี้ เราจึงเห็นแรงขายอย่างหนักในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ช่วงก่อนการประชุม FOMC ในเดือน ก.ย. นี้ และจากนี้จะมีปัจจัยลบอะไรรอกระแทกตลาดและเขย่าเศรษฐกิจตามมาอีก ต้องติดตาม

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์