☀️THE SUNDAY PAPER : SET Index วิ่งขึ้นมาอยู่ระดับแถว 1,640 จุด ด้วยแรงซื้อจากฝรั่งเข้ามาติดต่อกันในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หากพูดถึงหุ้นกลุ่มหนึ่งที่นักลงทุนเลือกลงทุนช่วงระยะปีที่ผ่านมาคือ "#กลุ่มเทคโนโลยี" ที่เติบโตจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 และปรับเปลี่ยนของธุรกิจอุตสาหกรรมหลายประเภทในระยะก่อนหน้ารวมถึงปัจจุบัน

📌หุ้นกลุ่มเทคหลายตัวราคาปรับขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว แต่ดูเหมือนในปีนี้จะเห็นว่าหุ้นเทคไม่ได้ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เนื่องจากปัจจัยและตัวแปรที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เมื่อลองพิจารณาดูในตลาดบ้านเรามีหุ้นกลุ่มเทคซึ่งแบ่งออกเป็นได้ดังนี้

▶️ กลุ่ม Block Chain , E-Payment
▶️ กลุ่ม Electronic Vehicle
▶️ กลุ่ม Software as Service & Consulting
▶️ กลุ่ม Electronic Component and Hardware Tech
▶️ กลุ่ม Cyber Security
▶️ กลุ่ม CT Infrastructure

📌บล.ดาโอ ได้ทำบทวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นในกลุ่มเทค พบว่าปัจจุบันมีรูปแบบที่แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มดังนี้

🔴กลุ่มหุ้นเทคที่มีโอกาสเติบโตสูงแต่ P/E สูงได้แก่
1.) BBKI : บริษัทมีงาน Consulting ที่มีมาร์จิ้นสูงจึงแนวโน้มกำไรเติบโตสูง
2.) FORTH : มีธุรกิจ New S Curve และเป็นเจ้าของเทคโนโลยี
3.) EA : เป็นธุรกิจอยู่ใน Mega Trend (EV) มีงานที่ต้องส่งมอบ
4.)KCE : บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิต

🟢กลุ่มหุ้นเทคที่มีโอกาสเติบโตสูงแต่ P/E ยังต่ำ คือ
SYNEX : มียอดขายมือถือเข้าช่วง High Season /การเบิกจ่ายงบ IT เพิ่ม
SMT : มียอดขายเกินเป้ามี Orderใหม่จากสินค้ามาร์จิ้นสูง
AS : เตรียมเปิดตัวเกม Flagship ปลายปีและรายได้เริ่มฟื้น

🔴บล.ดาโอ มองว่า หุ้นเทค 2 กลุ่มนี้ ยังมีความน่าสนใจแต่มีเรื่องระดับราคาหุ้นที่นักลงทุนต้องพิจารณา นอกจากนี้ บล.ดาโอ ยังทำข้อมูลให้นักลงทุนได้ ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคเพิ่มเติมด้วยว่า หุ้นเทคที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ควรหลีกเลี่ยง (เชื่อว่าคงมีคนที่ติดดอยในหุ้นเทคอยู่)

📌 มีการขาดทุนต่อเนื่องและยังไม่เห็นจุดวกกลับที่ชัดเจน
📌 งาน Project ที่ทำอยู่มีมาร์จิ้นต่ำ มีปัญหา และยังไม่ได้รับงานใหม่
📌 กฎเกณฑ์ภาครัฐหรือสภาวะแวดล้อมเปลี่ยน ปรับตัวไม่ทัน
📌 กำไรต่ำกว่าคาด มีการปรับลดประมาณการอย่างมีนัยสำคัญ

👉ส่วนหุ้นเทคลักษณะใดไหนที่ควรถือต่อและหุ้นกลุ่มเทคข้างต้นนั้น มีราคาเป้าหมายในเชิงกลยุทธ์อย่างไรบ้าง ติดตามชมได้ใน "รายการ Stock Delivery" คลิกที่นี่