เราคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า “เท่ากับตลาด” แต่มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นจากปัจจัย overhang มีแนวโน้มผ่อนคลายลง ประกอบด้วยปัจจัยหลัก 1) ความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยอิง Fedwatch Tool คาดมีโอกาสมากกว่า >70% ที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นใน 2H24E ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาเข้ากระชั้นขึ้นเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะลดน้ำหนักความกดดันลง และ 2) การแทรกแซงค่าไฟฟ้าจากภาครัฐผ่านการปรับค่า Ft คาดหากเกิดขึ้น ระดับความรุนแรงจะไม่เท่ากับปีก่อน เนื่องจาก EGAT ได้รับชำระหนี้คืนแล้วบางส่วน (ภาครัฐสามารถยืดหรืองดจ่ายได้) ในขณะที่แนวโน้มค่าก๊าซธรรมชาติยังมีปัจจัยผ่อนคลายจาก inventory ในเอเชียและยุโรปยังอยู่ในระดับสูง ลดความกดดันด้านต้นทุนพลังงาน และถึงแม้จะปรับตัวขึ้นแต่ยังมี buffer จาก EGAT ช่วยลด downside risk กับกลุ่มโรงไฟฟ้า
ราคาหุ้นกลุ่มไฟฟ้า underperform SET ในช่วง 3 เดือน ราว -5% จากปัจจัยกดดันดอกเบี้ยในระดับสูงและการแทรกแซงค่าไฟฟ้าจากภาครัฐ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปมาก จึงมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น แต่ยังคงน้ำหนักการลงทุน “Neutral” จากความไม่แน่นอนที่มีโอกาสเกิดขึ้น (ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาที่ยังไม่นิ่งอาจทำให้การปรับลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป) โดย top pick เลือก GULF (ซื้อ/เป้า 60.00 บาท), CKP (เป้า 4.50 บาท), SSP (ซื้อ/เป้า 9.00 บาท)