เรายังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” แม้ว่าเราจะมีการปรับประมาณการกำไรและจำนวนนักท่องเที่ยวลง แต่จากราคาหุ้นของกลุ่มที่ลงมาราว -30% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยเราปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2025E/2026E ลงมาอยู่ที่ 34.5/36.2 ล้านคน จากการปรับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลงลงมาอยู่ที่ 5.0/5.5 ล้านคน จากผลกระทบของ Tariff รวมถึงแผ่นดินไหว และเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย ทำให้เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของกลุ่มท่องเที่ยวปี 2025E/2026E ลง -4%/-5% (แต่ยังไม่ได้ปรับ MINT เพราะรอประชุมวันที่ 30 เม.ย. 25) จากการปรับจำนวนนักท่องเที่ยวและ RevPAR ลง ทำให้ได้กำไรสุทธิของกลุ่มอยู่ที่ 1.23/1.36 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +9% YoY/+11% YoY โดยเรามีการปรับประมาณการกำไรปกติปี 2025E ของ ERW มากที่สุดที่ -22% รองลงมาเป็น SHR ที่ -17% และ CENTEL -12%

คาดกำไร 1Q25E ของ CENTEL, ERW, SHR มีความเสี่ยงจะต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดย CENTEL เราคาดกำไรปกติ 1Q25E จะอยู่ที่ 709 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้เบื้องต้นที่ราว 800-850 ล้านบาท) ลดลง -5% YoY แต่เพิ่มขึ้น +19% QoQ โดย RevPAR น้อยกว่าคาด และมีค่าใช้จ่ายมากกว่าคาด, ERW เราคาดกำไรปกติ 1Q25E จะอยู่ที่ 323 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้เบื้องต้นที่ราว 380-400 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น +12% YoY แต่ลดลง -13% QoQ เพราะมี RevPAR โตได้น้อยกว่าคาด, SHR เราคาดกำไรปกติ 1Q25E จะอยู่ที่ 165 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาดไว้เบื้องต้นที่ราว 200-220 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น +42 YoY และ +13% QoQ จากภาษีจ่ายที่มากกว่าคาด และมีรายได้ที่โตน้อยกว่าที่คาด

ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวลดลง -14%/-28% ในช่วง 6 เดือน/1 ปีที่ผ่านมา เพราะหลากหลายเหตุการณ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น ขณะที่ Valuation มีการซื้อขายที่ EV/EBITDA ที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวเราเลือก MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2025E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD) ขณะที่จะได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่ากลุ่ม ประกอบกับที่ยุโรปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก