News Flash
ยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค.25 ยังลดลง YoY ต่อเนื่อง แต่ดีขึ้น MoM ได้ ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน มี.ค.25 อยู่ที่ 1.3 แสนคัน -6% YoY, +12% MoM โดยลดลง YoY ต่อเนื่อง แต่ดีขึ้น MoM ได้ จากฐานต่ำ และยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ดีขึ้น ทั้งนี้ 1Q25 มียอดผลิตรถยนต์รวม 3.5 แสนคัน -15% YoY, +3% QoQ
- ยอดขายในประเทศ -1% YoY, +13% MoM อยู่ที่ 5.6 หมื่นคัน ยังอยู่ระดับต่ำ เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูง แต่ดีขึ้น MoM เนื่องจากมีงาน Motor Show ในช่วงปลานเดือน (24 มี.ค. - 6 เม.ย.) และยอดขายรถ BEV ของค่ายรถยนต์จีนปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ 1Q25 ยอดขายรถยนต์ในประเทศรวมอยู่ที่ 1.5 แสนคัน -6% YoY, +14% MoM
- ยอดส่งออก -15% YoY, -1% MoM อยู่ที่ 8.1 หมื่นคัน ยังลดลง YoY เนื่องจากประเทศคู่ค้าเพิ่มความระมัดระวังจากปัจจัยสงครามการค้า, ถูกรถยนต์ไฟฟ้าจีนแย่งตลาด และบางประเทศเริ่มบังคับใช้เรื่องการปล่อยคาร์บอน ทั้งนี้ 1Q25 ยอดส่งออกรถยนต์ที่ 2.2 แสนคัน -19% YoY, -12% QoQ
ยอดจดทะเบียนใหม่รถยนต์นั่ง BEV (ไม่เกิน 7 คน) เดือน มี.ค.25 อยู่ที่ 7.6 พันคัน ลดลง +60% YoY, +49% MoM รวม 1Q25 มียอดจดทะเบียนใหม่ 2.5 หมื่นคัน +16% YoY
ส.อ.ท.เตรียมลดเป้ายอดผลิตรถยนต์ในปี 2025E เป็น 1.4 ล้านคัน จากเดิม 1.5 ล้านคัน ในช่วงกลางปี (ปี 2024 มียอดผลิตรถยนต์ 1.47 ล้านคัน) โดยจะปรับเป้าผลิตเพื่อส่งออกลงเป็น 9 แสนคัน จากเดิม 1 ล้านคัน ส่วนยอดขายในประเทศยังคงเดิมที่ 5 แสนคัน
(ที่มา: อินโฟเควสท์, https://web.dlt.go.th/statistics/index.php)
Implication
มองเป็นลบต่อบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ จากยอดผลิตรถยนต์ที่ลดลง YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 แต่กลับมาดีขึ้น MoM ได้ ทั้งนี้ เรายังคงประเมินยอดผลิตรถยนต์ปี 2025E ที่ 1.4 ล้านคัน -5% YoY โดยยอดผลิตถยนต์ 1Q25 จะคิดเป็นประมาณ 25% จากทั้งปี สำหรับยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย.จะติดลบไม่มากแม้มีวันหยุดยาว เนื่องจากได้อานิสงส์จากงานมอเตอร์โชว์ที่มียอดจองค่อนข้างสูงที่ 7.8 หมื่นคัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีจะยังลดลง จากยอดส่งออกที่จะยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากปัจจัยสงครามการค้า แต่ยอดขายรถยนต์ในประเทศตั้งแต่เดือน เม.ย.25 จะทยอยกลับมาดีขึ้น YoY จากฐานต่ำ และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าตามเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการภาครัฐ
กลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนัก underweight ไม่มี top pick โดย SAT (ถือ/เป้า 12.00 บาท) เราประเมิน SAT กำไรปี 2025E จะชะลอตัวตามยอดผลิตรถยนต์ ทั้งจากยอดผลิตรถกระบะที่เป็นฐานลูกค้าหลักของ SAT ยังมีโอกาสลดลง และการส่งออกยังมีโอกาสชะลอตัวมากกว่าคาดจากการแข่งขันของการส่งออกรถยนต์จากจีนที่มีราคาถูก ขณะที่อาจมีปัจจัยบวกทดแทนจากรายได้กลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ดีขึ้น