News Flash
คุณธนิศร์ เจียรวนนท์ CEO ของ CPAXT เป็นผู้แทนร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับคุณโยชิฮิโระ ฮาเซเละ CEO ของ Kao Corporation (Japan) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P. Group) โดยมีข้อตกลง ดังนี้
1. ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจสินค้าอุปโภคในกลุ่ม House Brand ของเครือเจริญโภคภัณฑ์
(C.P. Group) โดยใช้นวัตกรรมของคาโอ คอร์ปอเรชั่น เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน และสำหรับวางจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทั้งร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ห้างค้าปลีกสมัยใหม่โลตัส และห้างค้าปลีกชำระเงินสด(Cash&Carry)แม็คโคร
2.นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากคาโอ คอร์ปอเรชั่น และวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างร้านซีพี
3.ขยายโอกาสความร่วมมือทางด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์
4.ร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์และพาเลทแบบพร้อมโชว์ (Shelf-Ready Display) เพื่อจัดจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ภายใต้คอนเซปต์ “Club Model” ที่ แม็คโคร และ โลตัส ทุกสาขา ภายใต้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า
5.ร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาสังคม และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท
ทั้งนี้ สินค้า House Brand ของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจารายละเอียด เบื้องต้นคาดว่าจะผลิตในประเทศไทย โดยต่อยอดโนว์ฮาวและความเชี่ยวชาญของคาโอ ในการพัฒนาและผลิต อาทิ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า โดยคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ภายในปี 2025
ด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยนั้น คาดว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยจะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างร้านภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ อาทิ แม็คโคร โลตัส และเซเว่นอีเลฟเว่น
(ที่มา: bangkokbiznews, ประชาชาติธุรกิจ)
Implication
กระทบ NEO จำกัด เรามีมุมมองเป็นกลางจากประเด็นข้างต้นจากการร่วมมือของ C.P. และ Kao เนื่องจาก 1) เรามองว่ากระทบ NEO จำกัด สินค้ากลุ่ม Liquid detergent มีสัดส่วนรายได้ที่ 35-40% ของรายได้ NEO โดยสินค้ากลุ่มนี้มี Brand Loyalty สูง โดย Liquid detergent ของ NEO ได้แก่ Fineline มี market share อยู่อันดับ 2 และ NEO มีทีม R&D ที่แข็งแกร่งเข้าใจ consumer insight มีการพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง, 2) แม้จุดแข็งของสินค้า house brand คือ ราคาที่ต่ำกว่า แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมี perception ว่าคุณภาพจะด้อยกว่าสินค้าแบรนด์ เรามองว่า จะต้องใช้เวลาในการสร้าง Brand Awareness และ educate ผู้บริโภคเพื่อปรับมุมมองเกี่ยวกับสินค้า house brand ใหม่, 3) สินค้ากลุ่มซักผ้าของ NEO ครอบคลุมในทุก segments ตั้งแต่ Mass (Fineline, Smart), Premium Mass (Fineline – Organic, D-Nee Organic, D-Nee Deluxe) และจับกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย, 4) จุดจำหน่ายของ NEO มีครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade
คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E – 25E เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 1,090 ล้านบาท (+31% YoY) และปี 2025E คาดกำไรสุทธิที่ 1,203 ล้านบาท (+10% YoY) หนุนโดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น Household plant +10% YoY และ Personal care plant +19% YoY ทั้งนี้ เราคงราคาเป้าหมายที่ 64.00 บาท อิง 2025E PER 16.0x เรามองว่า valuation น่าสนใจ โดยปัจจุบันเทรดที่ 2025E PER 11.5x
กลับสู่ด้านบน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์