News Flash
ครม. เห็นชอบให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัด F1 ใน กทม. เป็นเวลา 5 ปี เริ่มปี 2028E นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบนโยบายการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Fomula หรือ F1 แล้ว และหลังจากนี้ ซึ่งในตามข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2028E กรอบวงเงิน 40,000 กว่าล้านบาท โดยจะใช้งบเป็นรายปีและต้องเสนอเข้ามาให้ ครม. พิจารณาในทุกปี ดังนั้นวันนี้ที่ประชุมจึงได้พิจารณากรอบการดำเนินโครงการเพื่อไปศึกษาโดยละเอียดต่อไป โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของสนามแข่งขันจะอยู่ใน กทม. บริเวณสวนจตุจักร ต่อเนื่องไปสถานีกลางบางซื่อ โดยระยะเวลาที่ครม.เห็นชอบ 3 วันต่อปี เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2028E-32E (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
Implication
เรามองเป็นบวก หากไทยได้มีการจัด F1 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้มีนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นอีกปีละราว 3 แสนคน หรือคิดเป็น upside เพิ่มต่อจำนวนนักท่องเที่ยวรายปีราว +1% ขณะที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศค่อนข้างมาก โดยอิงจากสิงคโปร์ที่เคยจัดเมื่อปี 2022 ทำรายได้รวมได้ 3.5 พันล้านบาท จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมทั้งหมด 3 แสนคน ส่วนเมลเบิรน์เคยจัดเมื่อปี 2023 ทำรายได้รวมได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (มากกว่า 2.2 พันล้านบาท) จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมทั้งหมด 4.4 แสนคน ทั้งนี้เรื่องสถานที่ในการจัดการแข่งขันจะเป็นใน กทม. ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มโรงแรมโดยตรง โดยกลุ่มท่องเที่ยวที่จะได้ประโยชน์เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้ในประเทศ ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR โดย ERW (ถือ/เป้า 2.50 บาท), CENTEL (ซื้อ/เป้า 29.00 บาท) จะได้ sentiment บวกจากประเด็นนี้มากที่สุด
ทั้งนี้ เราคำนวณ upside ต่อกำไรสุทธิหากไทยได้เป็นคนจัด F1 (Fig 3) โดย ERW จะได้ upside ต่อกำไรสุทธิที่ราว +0.12% และ CENTEL ที่ +0.02% อิงจากสมมติฐานว่างาน F1 จะจัดในช่วง ก.ย.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจโรงแรมมี Occ. Rate ที่สูงราว 70-80% ทำให้เหลือ Occ. Rate ที่ว่างจะรับนักท่องเที่ยวเพิ่มที่ราว 20% และเทียบกับจำนวนโรงแรมใน กทม. ของแต่ละบริษัท นอกจากนี้เราอิงค่าเฉลี่ย ADR ที่ 3,000 บาทต่อคืน และคาด NPM เฉลี่ยอยู่ที่ 10%
Valuation/Catalyst/Risk
เราให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่ม เราเลือก MINT เป็น Top pick แต่อย่างไรก็ดี ระยะสั้นกลุ่มท่องเที่ยวยังเผชิญกับความผันผวนของสงครามอิสราเอล-อิหร่านซึ่งจะกระทบต่อนักท่องเที่ยว Middle East ที่จะชะลอตัวลง และนักท่องท่องเที่ยวยุโรปที่จะเดินทางมาประเทศไทยยากขึ้น
MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2025E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่ 2Q-3Q25E จะเป็นช่วง High season ที่ยุโรป และได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่ากลุ่ม ประกอบกับที่ยุโรปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก