News Flash
ธปท. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ฉบับปรับปรุง ธนาคารแห่งประเทศไทย ขอเชิญร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ฉบับปรับปรุงครั้งนี้ ผ่านหน้าเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย และระบบกลางทางกฎหมาย โดยช่วงเวลาในการเปิดรับฟังความคิดเห็นคือ 5 - 20 ก.ย. 24 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 24 ซึ่งกำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้ให้บริการในการรับผิดชอบลูกค้าอย่างเหมาะสมและครอบคลุมตลอดวงจรการเป็นหนี้ ตั้งแต่การก่อหนี้ใหม่ที่มีคุณภาพ การดูแลหนี้เดิมโดยเฉพาะหนี้เสียและหนี้เรื้อรัง และการดำเนินคดีและโอนขายหนี้ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการให้ข้อมูลเพื่อกระตุกพฤติกรรมลูกค้า (nudge) ตลอดวงจรหนี้ เพื่อให้เกิดการปล่อยหนี้ใหม่อย่างมีคุณภาพ สนับสนุนการมีวัฒนธรรมสินเชื่อที่ดี (good credit culture) และส่งเสริมวินัยทางการเงินแก่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน (ที่มา: ธปท.)
Implication
เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะกลุ่มเช่าซื้อ เพราะมีการผ่อนคลายกับลูกหนี้มากขึ้น เรามองเป็นบวกต่อการ Hearing รอบนี้ เพราะมีการผ่อนคลายกับลูกหนี้มากขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
1. เรื่องสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยผ่อนคลายในเรื่องของการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะให้รวมรายได้ของผู้ค้ำประกันที่เป็นบุคคลภายในครอบครัวได้ (เดิมไม่ได้) เช่น ทายาทโดยธรรม ผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสอันถือว่าเป็นคู่สมรส
2. เรื่องการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เรื้อรัง (Persistent debt) โดยสถาบันการเงินไม่ต้องระงับวงเงิน Revolving ส่วนที่ลูกหนี้ยังไม่ได้ใช้ (จากเดิมที่ให้ระงับวงเงิน) และขยายเวลาการปิดจบหนี้เป็นภายใน 7 ปี (จากเดิมภายใน 5 ปี)
โดยหากการปรับปรุงหลักเกณฑ์นี้เกิดขึ้นจริง จะช่วยให้ผู้กู้สามารถได้รับการอนุมัติเงินสินเชื่อได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และจำนำทะเบียนรถ รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเช่าซื้อเรียงตามสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อจากมาก-น้อยคือ เช่น KKP (48% ของสินเชื่อรวม), TISCO (46% ของสินเชื่อรวม), TTB (30% ของสินเชื่อรวม), BAY (21% ของสินเชื่อรวม), SCB (7% ของสินเชื่อรวม)
เรายังคงน้ำหนักการลงทุนลงเป็น “เท่ากับตลาด” โดยเลือก KTB (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) และ KBANK (ซื้อ/เป้า 155.00 บาท) เป็น Top pick แต่ KKP, TISCO และ TTB จะได้ sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นจากประเด็นดังกล่าว