logo
search
flag-th
share-icon

หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก EASY E-RECEIPT

News

  • มาตรการ “Easy E-Receipt” เริ่ม 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2024 เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี 2567 โดยผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2024 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2024 (46 วัน) ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น
  • กรณีซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) พร้อมต้องระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย
  • กรณีการซื้อสินค้าหรือการรับบริการจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องมีใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) พร้อมต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย
  • โดยค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่ไม่ร่วมมาตรการ Easy E-Receipt มีดังนี้
  • ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่าซื้อยาสูบ
  • ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2024 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2024
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์)

Implication

  • กลุ่ม Home improvement และผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกซ์และ IT จะได้ผลบวกมากสุด เรามองบวกต่อโครงการ Easy e-Receipt ที่จะช่วยหนุนให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น เราประเมินว่ากลุ่มค้าปลีกที่มี basket size ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม Home improvement และผู้ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกซ์และ IT จะได้ผลบวกมากสุด จากระยะเวลาโครงการที่ให้สามารถใช้จ่ายได้ไม่ได้นานมากรวมทั้งสิ้นที่ 46 วัน แต่มีการให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีในปี 2024 ที่สูงขึ้นเป็น 50,000 บาท (ปี 2023 = 40,000 บาท, ปี 2022 = 30,000 บาท)
  • กลุ่ม Tourism (ERW, CENTEL, MINT, SHR) ได้ผลบวกจากค่าที่พักโรงแรมสามารถนำมาหักภาษีได้ ส่วน CENTEL กับ MINT จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย
  • กลุ่ม IT Wholesaler (SYNEX, SIS) ได้ผลบวกเล็กน้อย เนื่องจากมีร้านค้าของผู้ค้าปลีกรายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียน e-VAT ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิ e-Receipt ได้
  • กลุ่มสินเชื่อและบัตรเครดิต (AEONTS, KTC) ได้ผลบวกเล็กน้อย จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เพิ่มขึ้น
  • Top picks คือ CRC, CPN, HMPRO, COM7 ทั้งนี้เราได้ศึกษาราคาหุ้นกลุ่ม commerce เทียบกับ SET พบว่าราคาหุ้นจะ outperform SET +2% และ +3% หลังจากการเริ่มโครงการ อิงโครงการช้อปดีมีคืนปี 2022 (1 ม.ค. 22-15 ก.พ. 22) ที่มีจำนวนวัน, ประเภทสินค้า และบริการที่เข้าร่วม และ GDP ที่ใกล้เคียงกัน

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์