News Flash
- รมว.แรงงานเผยยังไม่มีแรงงานกัมพูชาขอกลับประเทศ วานนี้ (16 มิ.ย.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทย ประมาณ 500,000 คน โดยมีทั้งแรงงานถูกกฎหมายประมาณ 400,000 คน และผิดกฎหมายประมาณ 20,000 คน ขณะเดียวกันมีแรงงานไป-กลับ ที่เข้ามาเก็บผลไม้ตามฤดูกาลใน จ.จันทบุรี ระยอง และ ตราด ประมาณ 20,000 คน ซึ่งแรงงานส่วนนี้เป็นแรงงานที่รัฐบาลกัมพูชาต้องการจะขอคืน จึงไม่ส่งกระทบกับธุรกิจในไทย ขณะที่กระทรวงแรงงานได้ประชุมหารือกับสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย และสอบถามถึงสถานการณ์แรงงานกัมพูชา โดยได้รับการยืนยันจากเจ้าของสถานประกอบการว่า ขณะนี้ยังไม่มีแรงงานกัมพูชายื่นความจำนงขอกลับประเทศ (ที่มา: Thai PBS)
Implication
- เรามีมุมมองเป็นกลาง โดยเบื้องต้นประเมินผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวยังจำกัด ทั้งนี้ในภาพใหญ่ แรงงานกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนราว 13-15% ของแรงงานต่างด้าวทั้งหมด หรือคิดเป็นเพียง +/-5% จากปริมาณแรงงานทั้งหมดในไทย ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยืนยันว่าปัจจุบันแรงงานยังทำงานปกติและยังไม่ได้มีการยื่นจำนงขอกลับประเทศ นอกจากนี้เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถหาแรงงานชดเชยได้จากสัดส่วนแรงงานกัมพูชาที่ไม่มาก
- สำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เรามองผลกระทบจำกัด โดยปัจจุบัน CK ไม่มีแรงงานในสังกัดโดยตรงที่เป็นชาวกัมพูชา (มีเพียงผ่าน subcontractor ราว 200 คน), STECON มีแรงงานกัมพูชา 5%, และ SEAFCO มี <10% ทั้งนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราแนะนำ “Overweight” และ Top pick ได้แก่ CK (ซื้อ/เป้า 00 บาท) และ STECON (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท)
สำหรับกลุ่ม Agri & Food บริษัทที่มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชามากสุด ได้แก่ GFPT ราว 20% อย่างไรก็ตามการว่าจ้างแรงงานต่างด้าวดังกล่าวเป็นการติดต่อผ่าน agency โดยหากมีการเลิกสัญญาก่อนกำหนด agency มีหน้าที่จัดหาแรงงานชดเชย ขณะที่สำหรับ ITC และ TU มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชาเพียง 1% และ AAI และ NER ไม่มีแรงงานกัมพูชา สำหรับกลุ่ม Pet Food เราแนะนำ “Neutral” และ Top pick ได้แก่ AAI (ซื้อ/เป้า 6.00 บาท) ขณะที่ตัวอื่นๆ ได้แก่ GFPT แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท อิง 2025E PER 7.5x (-1SD below 5-yr average PER), TU แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท อิง SOTP, และ NER แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท อิง 2025E PER 5.5x (-0.5SD below 5-yr average PER)