• คาดดัชนีฯสัปดาห์หน้า แกว่งตัว 1172-1220 จุด รอเจรจาไทย-สหรัฐ และจับตาสหรัฐฯถูกหั่นเครดิต

• ตลาดหุ้นไทย เริ่มประคองตัวในกรอบแคบๆ ได้ หลังตลาดหุ้นอื่นๆ ทยอยถูกขายทำกำไร รวมถึงการเทขายล่วงหน้าก่อน MSCI rebalance ลดน้ำหนักหุ้นไทยในช่วงสิ้นเดือนนี้โดยประเมินว่าแรงขายน่าจะเริ่มเบาบางลง จุดสำคัญในการพื้นตัวกลับของตลาดหุ้นไทยคือการเจรจาการค้าไทยสหรัฐหากมีแนวโน้มออกมาดี คาดว่าจะหนุนให้ SETพื้นตัวกลับขึ้นมาได้และอาจจะสามารถทะลุ 1235จุดซึ่งทางเทคนิคจะเป็นการยืนยันการกลับมาเป็นขาขึ้นของตลาดหุ้นไทยอย่างชัดเจน

•  ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ จะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับประเทศอื่น ๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และผู้นำสหรัฐฯ มีแผนจะพบกับผ็นำจีนในเร็วๆ นี้ ขณะที่เตรียมเจรจาการค้ารอบใหม่ ระบุสถานที่คือประเทศ เกาหลีใต้ .... สถานการณ์การค้า กำลังดีขึ้นตามลำดับ

• Moody's ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงจาก Aaa เป็น Aa1 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากการขาดดุลงบประมาณและการก่อหนี้ของรัฐบาล .....  ข่าวนี้ คาดจะกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ  Bond Yield ของสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้น จะสวนทางกับดอลล่าร์ที่อ่อนค่า โดยสินทรัพย์ที่อาจได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของดอลล่าร์ จะเป็นทองคำและราคาสินค้าโภคภัณฑ์

• Wynn Resorts สหรัฐอเมริกา เเข้าหารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ (EntertainmentComplex)โดยมองเห็นศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่และเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย คาดว่าEntertainmentComplexจะสามารถยกระดับประเทศให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงและการพักผ่อนของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและในวันที่่19พฤษภาคมนี้จะมีบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ฯ อาทิ Galaxy, Melco, MGM, Genting และ Hard Rock เดินทางเข้าหารือกับ นายจุลพันธ์ เพิ่มเติม

•จับตานายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 19 พ.ค. เตรียมพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่ คาดใช้งบราว 1.57 แสนล้านบาท

• ตลาดหุ้นไทย ผ่านการส่งงบไปแล้ว DAOL รวบรวมกำไร 883 บริษัท เป็นกำไรของ SET 2.83 แสนลบ. +3% yoy ; +70% qoq (เราใช้กำไร GULF และ INTUCH ก่อนควบรวม) สูงกว่าที่ตลาดคาด 11%(Bloomberg Survey) และมากกว่าที่เราประเมินไว้ที่ 2.4 แสนลบ. .... แม้กำไรจะดีกว่าคาดมาก แต่ อาจมีแรงขายออกมาให้เห็นหลังผ่านการรายงานกำไรกันไปแล้ว โดยเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มธุรกิจเป็นลบ

• หลักทรัพย์ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์นี้ มี 8 หลักทรัพย์ มีผลต่อ SET Index -0.4 จุด (ถ้าราคาหุ้นลดลง เท่ากับเงินปันผลจ่าย) หุ้นขนาดใหญ่ที่จะขึ้น “XD” สัปดาห์นี้ อาทิ WHART(@0.1915), TSC(@0.4), CPNREIT(@0.2505)

• Event สัปดาห์นี้ : GDP ไทย 1Q2025(19), ส่งออกไทย(21), ยอดขายรถยนต์ไทย(22)ตัวเลขเคลมการว่างงานสหรัฐฯ(22), PMI สหรัฐฯ(22), ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ(22), ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ(23)

 

• ตลาดยังพักตัว(ปรับฐาน) เรารอดูความคืบหน้าในการเจรจาการค้า มาตรการเศรษฐกิจของไทย

• China Play  หุ้น 3 sector จะได้อานิสงค์  ปิโตรเคมี อีเล็คทรอนิคส์  และเดินเรือ หุ้นเด่นของ 3 กลุ่มนี้ SCGP, IVL, PTTGC, CCET*, DELTA* , RCL*

• หุ้นในพอร์ตวันนี้  เราคงหุ้นในพอร์ตไว้ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย DELTA*(10%), TRUE*(10%), RCL*(10%)

 

 ( + ) KBANK (เป้า 170.00 บาท), GULF (เป้า 63.00 บาท) GULF เดินหน้าเข้าซื้อหุ้น KBANK เพิ่มขึ้นเป็น 5.23%

( + ) GFPT (ซื้อ/เป้า 12.00 บาท) จีน-ยุโรปสั่งระงับนำเข้าสัตว์ปีกจากบราซิล 60 วัน หลังพบไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มไก่

 

( + ) TOP (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท) คาด market GRM ฟื้นตัว QoQ ใน 2Q25E และต่อเนื่องใน 2H25E

( + ) PLANB (ซื้อ/เป้า 7.00 บาท) Outlook ดีต่อเนื่อง, 2Q25E กำไรโต YoY, QoQ

( - ) CRC (ปรับเป็นลง ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 27.00 บาท) ปรับเป้ารายได้และ GPM ใน 2025E ลง จากสภาพเศรษฐกิจกดดัน

( 0 ) MOSHI (ซื้อ/เป้า 58.00 บาท) 2025E ยังคงเป้ารายได้เดิมเติบโต +15-20% จากการขยายสาขา ขณะที่สภาพเศรษฐกิจยังกดดัน

( 0 ) AURA (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) การเติบโตยังดีตามเดิม ทั้งธุรกิจค้าปลีกทอง และขายฝาก