• คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดมีแรงขายทำกำไรเข้ามาเป็นระยะๆ

• ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีฯ มีแรงส่งด้วย Flow ที่ไหลเข้าตลาด เช่นเดียวกับหลายวันที่ผ่านมา ทำให้หุ้นขึ้นกระจายไปทั้งตลาด โดยเฉพาะหุ้นตัวหลัก(หุ้นใหญ่)  คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรในระหว่างการซื้อขาย หากดัชนีฯ เข้าใกล้ระดับ 1250 จุด

• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตัวเลข GDP 2q(a) ที่ออกมาที่ 3.0% qoq จาก -0.5% ในไตรมาสก่อน ช่วยหนุนค่าดอลล่าร์ให้ขยับขึ้นได้ แต่ลดการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed ให้ลดลง ส่งผลให้ราคาพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลงในคืนที่ผ่านมา (Bond Yield สูงขึ้น)

• ผลการประชุม FOMC  คณะกรรมการคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50%  สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย ทาง Fed รอดูผลของการใช้มาตรการภาษีของ Trump และเงินเฟ้อ

• สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังมีการปะทะกันต่อเนื่อง แม้ได้ทำข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ทั้งนี้รอหารืออีกครั้งในการประชุม GBC ส.ค. นี้ .... เรามองสถานการณ์ที่ยังนิ่ง นักลงทุนน่าจะเบนความสนใจไปเรื่องอื่น เช่น การเจรจาการค้า หรือเรื่องงบ

• วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเจรจาข้อตกลงการค้า ก่อนสหรัฐฯ บังคับใช้ภาษี 1 ส.ค.นี้ ในวันนี้อาจได้เห็นประกาศข้อตกลงร่วมกับหลายๆ ประเทศ ด้านไทยหากไม่มีผล Tariff ออกมาภายในวันนี้ คาดว่าจะโดนบังคับใช้อัตราภาษี 36% ดังเดิมตามที่เคยประกาศไว้ และวันนี้ติดตามความคืบหน้า ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ นัดไต่สวนคดีการบังคับใช้ภาษีนำเข้าทั่วโลกผ่านกฎหมาย IEEPA ของทรัมป์ คาดมีคำตัดสินช่วงเดือน ส.ค. เป็นต้นไป ซึ่งคำตัดสินของศาลฯ จะมีผลกับหลายประเทศทั่วโลก

• ศาลรธน. อนุญาตขยายเวลายื่นคำชี้แจงคดีคลิปเสียง ของนายกฯ ถึง 4 ส.ค. เป็นครั้งสุดท้าย แม้ก่อนหน้านี้ได้ขอขยายถึง 31 ก.ค.ไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้านคดีชั้น 14 รพ. ตำรวจ ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา 9 ก.ย. และคดีม. 112 นัดตัดสินคดี 22 ส.ค. .... ในช่วงการตัดสินคดีเหล่านี้ ตลาดหุ้นจะได้รับความกดดันทางการเมืองอีกครั้ง

• คลัง ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทย 2568 โต 2.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.1%(เม.ย.68) ได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าที่คาด สอดคล้องกับ IMF ที่ปรับคาดการณ์ GDP ไทยขึ้นมาที่ 2.0% ... ผลกระทบต่อ GDP จากภาษีทรัมป์ อาจไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่คาด ทั้งนี้รอดูตัวเลขคาดการณ์ของแบงก์ชาติอีกครั้ง โดยประมาณการเมื่อ 25 มิ.ย. อยู่ที่ 2.3% ปรับขึ้นจาก 2.0%(เดือนเม.ย.)

• กำหนดการส่งงบการเงิน วันสุดท้าย 14 ส.ค. นี้ โดย DAOL ประเมินกำไรตลาด 2Q/25 ไว้ที่ 2.4 แสนล้านบาท -5% YoY; -13%qoq  (1Q/25 ที่ 2.82 แสนล้านบาท) .... สัปดาห์นี้ บริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศงบฯ ในวันนี้ ได้แก่ BH, ITC

• Event วันนี้ : ธปท. รายงานเศรษฐกิจและการเงินรายเดือนก.ค., PCE สหรัฐฯ (คาดการณ์ 2.54%; ครั้งก่อน 2.3%), ตัวเลขเคลมการว่างงานสหรัฐฯ(คาดการณ์ 223k; ครั้งก่อน 217k)

 

• ตลาด ยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ โดยมีการเข้ามาเก็งงบ 2Q กันอย่างต่อเนื่อง มองเป้าดัชนีฯ จุดต่อไป 1250 จุด

• กลยุทธ์  เน้นการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว อาทิ เก็งงบ เก็งเงินปันผล หรือหุ้นที่ได้อานิสงค์จาก Flow ไหลกลับเข้าตลาด อาทิ BDMS, BH และหุ้นกลุ่มธนาคาร

• List ของหุ้นที่ราคาลงมาลึก และมีสัญญาณเก็งกำไร BGRIM, STA*, JMT*

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ SCB, GLOBAL ออก และนำ WHA, ITC เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย WHA(20%),ITC(10%), STA*(10%),OR(10%),  GULF(10%), SCC(20%), CRC(10%)

 

( + ) Tourism (Neutral) คลังเตรียมออกมาตรการภาษี 'กระตุ้นท่องเที่ยว' สรรพากรเล็งลดหย่อน 1.5 หมื่นบาท

 

( 0 ) SCC (ขาย/เป้า 140.00 บาท) รายการพิเศษหนุนกำไรสุทธิ 2Q25; กำไรปกติต่ำกว่าคาด

 

( + ) SJWD (ซื้อ/เป้า 11.30 บาท) กำไรปกติ 2Q25E ยังเติบโตดี YoY จากธุรกิจขนส่งและ Oversea

( - ) PLUS (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 3.00 บาท) 2Q25 พลิกกลับมาเป็นกำไร แต่ GPM ยังถูกกดดันจากต้นทุนกำลังการผลิตใหม่