News Flash

           กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอโครงการรวม 3.5 แสนล้านบาท เข้า ครม. ก.ย. นี้ คาดเปิดประมูลภายในสิ้นปี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้า 2 โครงการใหญ่ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ได้แก่

1) ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 3 ช่วง วงเงินรวม 2.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น

1.1) ส่วนต่อขยายช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6.5 พันล้านบาท กระทรวงคมนาคมได้นำส่งไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คาดว่าจะได้รับการพิจารณาจาก ครม. ภายใน 1-2 เดือน

1.2) ส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท และส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4.7 พันล้านบาท ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างปรับรายละเอียด และจะนำเสนอคณะกรรมการ รฟท. ภายใน ก.ค. นี้ จากนั้นจะนำส่งมายังกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน โดยคาดว่าจะสามารถเสนอ ครม. ได้ภายใน ก.ย. 2024 และเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้

2) โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กม. วงเงิน 3.3 แสนล้านบาท จะเสนอเข้า ครม. ภายใน ก.ย. เช่นกัน โดยปัจจุบัน รฟท. ได้ออกแบบโครงการแล้วเสร็จ และได้รับอนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้คาดว่า รฟท. จะสามารถเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะแบ่งงานออกเป็น 8-10 สัญญา โดยเป็นงานระบบ 1 สัญญา ที่เหลือคืองานโยธา (ที่มา: ข่าวหุ้น)

Implication

           เรามีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นดังกล่าว จาก progress ของโครงการที่เร็วขึ้นกว่าเราคาดเล็กน้อย จากเดิมที่เรามองว่าโครงการเหล่านี้จะเปิดประมูลได้ในช่วงต้นปี 2025E ทั้งนี้เราคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้ประโยชน์จะเป็นผู้ประกอบการรับเหมารายใหญ่ เช่น CK STEC ITD และ UNIQ เป็นต้น เนื่องด้วยมูลค่าโครงการที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 2 ซึ่งจำนวนสัญญาลดลงจากโครงการเฟส 1 ที่ 14 สัญญา ขณะที่มีมูลค่างานรวมสูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังต้องรอความชัดเจนรายละเอียด TOR และเรามองว่ามีโอกาสที่ผู้รับเหมาต่างประเทศอาจเข้าร่วมประมูลผ่านการจับมือกับผู้รับเหมาไทย ทำให้การแข่งขันประมูลจะสูงขึ้น สำหรับผู้รับเหมาฐานรากยังต้องรอดูรายละเอียดงานก่อสร้างว่ามีงานเสาเข็มและกำแพงกันดินหรือไม่

           เบื้องต้นเราประเมินงานที่ชนะประมูลทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท จะเป็น upside ต่อราคาเป้าหมาย CK และ STEC ใกล้เคียงกันที่ราว 0.1-0.2 บาท/หุ้น ทั้งนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เราคงน้ำหนัก “Neutral” แม้แนวโน้มการเปิดประมูลโครงการจะทยอยเห็นความคืบหน้า แต่เรามองว่ายังมี noise จากประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและสถานการณ์การเมืองที่กลับมามีความไม่แน่นอน สำหรับ Top pick เราชอบ CK (ซื้อ/เป้า 27.00 บาท) จาก backlog โดดเด่นกว่าคู่แข่งที่ 1.2 แสนล้านบาท ขณะที่โอกาสเติมงานใหม่ยังมีสูง โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและทางด่วน Double Deck ของ BEM