logo
search
flag-th
share-icon

MORNING BELL 15 MAR 2024

SET Outlook

  • คาดดัชนีฯ ชะลอตัวก่อนเข้าวันหยุด แต่ต้องตามตัวแปรสำคัญของวันคือ ดอกเบี้ยจีน และ FTSE rebalance
  • ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิต และตัวเลขเคลมการว่างงานของสหรัฐฯ ออกมาแล้ว ตลาดน่าจะเห็นทิศทางเงินเฟ้อที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งการประชุม FOMC สัปดาห์หน้า (20 มี.ค.) ที่จะเป็นการประชุมที่ไม่มีใครสนใจว่าดอกเบี้ยจะขึ้นหรือลง (เพราะโอกาสคงดอกเบี้ยมีเกือบ 100%) แต่จะสนใจสัญญาณจาก Fed มากกว่า ว่าเดือน มิ.ย. Fed พร้อมจะลดดอกเบี้ยหรือไม่
  • event สำคัญสัปดาห์หน้า คือ ประชุม BOJ (19 มี.ค.) ที่ถูกคาดว่าอาจมีการเปลี่ยนนโยบายการเงิน (ขึ้นดอกเบี้ย) จากข่าวใน Bloomberg มีกองทุนต่างประเทศเข้ามา bet กับผลประชุมครั้งนี้ คือ ซื้อเงินเยน และขายพันธบัตรออกมา ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ขอรอดูผลประชุม(หากขึ้นดอกเบี้ย น่าจะขาย)
  • ข้อมูลการซื้อหุ้นของกองทุนภาครัฐฯของจีน ที่เรียกว่า National Team มีการเข้าซื้อมา 5 เดือน ไปแล้ว $5 หมื่นล้านเหรียญ แต่ช่วงประชุม NPC สัปดาห์ก่อน พบว่ามีปริมาณซื้อเข้าที่ลดลง นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดัชนีฯตลาดหุ้นจีน(CSI300) แผ่วลงในสัปดาห์นี้ และมีผลมาถึงหุ้นไทยที่อิงจีนอยู่ด้วย (ยกเว้น หุ้นยางพาราที่ได้อานิสงค์จากราคายางพารา ที่สูงขึ้น)
  • เรายังให้สนใจต่อข่าวการปรับ ครม. โดยเฉพาะ รมว.คลัง หากผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ เป็นที่ยอมรับของนักลงทุน และสามารถทำงานได้เต็มที่ (ปัจจุบัน นายกฯ รักษาการหน้าที่นี้อยู่) จะทำให้มีผู้ผลักดันโครงการและนโยบายต่างๆ ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะ Digital Wallet
  • ประชุมธนาคารกลางจีน(PBOC) ในวันนี้ หากลดดอกเบี้ย จะทำให้สภาพคล่องของระบบสูงขึ้น และไทยที่อิงกับจีน จะฟื้นตัวกลับมาได้ ....ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ย Medium-term Lending Facility Rate (1 ปี) ซึ่งเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลาง ล่าสุด อยู่ที่ 2.50%
  • วันนี้ จะเป็นวัน rebalance ของ ดัชนี FTSE 2 ดัชนี คือ FTSE Global Equity Index Series และ FTSE/ASEAN 40 Index โดยใช้ราคาปิดวันนี้(15) ความของผันผวนของราคาหุ้นจะน้อยกว่า 2 วันที่ผ่านมา แต่ณ ราคา ATC จะมี volume และราคา ที่สูง/ต่ำ กว่าปกติ  อาจทำให้ดัชนีฯ ณ ราคาปิด เพี้ยนไปด้วย
  • ตัวเลขเศรษฐกิจและ Event วันนี้ : ตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภค(สหรัฐฯ)

 

Strategy

  • นักลงทุนหึกเหิมหลังดัชนีฯ ยืนเหนือ 1380 จุดได้ โดยได้ตัวช่วยคือหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี จุดทดสอบความแข็งแรงของตลาดจุดต่อไป คือ 1396 และ 1404 จุด ตามลำดับ กล่าวคือ “ผ่านได้ ก็ไปต่อ” … แต่มีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือ เราไม่แน่ใจว่าแรงซื้อหุ้น 2 วันที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากการทำ rebalance หุ้นในดัชนีฯ FTSE หรือไม่ ถ้าใช่ วันนี้ความแรงของราคาหุ้นเหล่านี้จะลดลง
  • แผนการเทรด หรือ จุด check point ของดัชนีฯ ยังเหมือนเดิม คือ ขาขึ้น 2 จุด (1396 และ 1404 จุด) ส่วนขาลง 3 จุด (1380 , 1376, 1362 จุด)
  • Theme ลงทุน ตอนนี้ มี 3 theme คือ ปันผลสูง-หุ้นชั้นดี-หุ้นราคาลงมาลึก หุ้นเด่นที่สุดของแต่ละ theme  คือ SCB-WHA-KCE
  • หุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี หากดีดแรงต่อน่า ให้ระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้นเข้ามาด้วย หุ้นที่ top list ของกลุ่มนี้ คือ TOP, BCP, IVL, PTTEP
  • เรามองการ rotate หุ้น ในจังหวะต่อไปของตลาด มีหุ้นที่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาให้เห็น คือ CRC, BH, AWC ขณะที่ TRUE ความแรงยังไม่หยุดง่ายๆ แต่การเข้าซื้อต้องมี trailing stop ไว้ด้วย คือ อย่าให้ต่ำกว่า 8.00 บาท
  • หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด หุ้นในพอร์ตประกอบไปด้วย SJWD(10%), KCE(10%), WHA(10%)

 

Technical :  OSP, THREL

 

 

Company Update:

( + ) SYNEX (ถือ/เป้า 10.00 บาท) รายได้อาจสูงกว่าคาด จากสินค้าที่เพิ่ม และงานรัฐที่เริ่มกลับมา

( 0 ) MENA (ซื้อ/เป้า 2.90 บาท) ขยายกองรถต่อเนื่อง, ยอดขายเบียร์ต่ำเป้าไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ

 

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์