• ตลาดหุ้นไทย มี rebound เป็นระยะๆ ตลาดยังมี่ความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทในตลาดไทย(แนวโน้มส่วนใหญ่เป็นลบ) และปัจจัยภายนอก คือ Trade War (แต่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย) และเงินเฟ้อ ทำให้วันนี้ ดัชนีฯ จะยังผันผวน(ในทางลง)อยู่ต่อไป

• ทรัมป์ประกาศภาษี Reciprocal Tariffs คืนที่ผ่าน แต่ให้ไปศึกษาถึง 1 เม.ย. ..... เป็นข่าวบวกของตลาดสหรัฐฯ ดอลล่าร์ และพันธบัตร โดยของไทย ก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์ ได้ประกาศจะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ........  ถ้าดูจากสินค้าที่ตามข่าวนี้ และที่ไทยมีการส่งออกไปสหรัฐฯ อาจมีแค่ สินค้าในกลุ่มยานยนต์ และยางพารา ที่เข้าข่ายที่จะถูกพิจารณา รวมถึงสินค้าที่จีนย้ายมาผลิตที่ไทย และส่งออกไปยังสหรัฐฯ

• ดัชนีราคาของผู้ผลิต(PPI) ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค. .... ตัวเลขนี้ ออกไปในทางเดียวกับ CPI ที่ออกมาวันก่อนที่ 3.0% ยืนยันสัญญาณเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

• Mazda ทุ่ม 5 พันล้านบาท ลงทุนไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ B-SUV แบบ Mild Hybrid (MHEV) เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก โดยตั้งเป้าการผลิตที่ 1 แสนคันต่อปี เริ่มผลิตได้ในปี 2570 หลังบอร์ดอีวีเห็นชอบมาตรการส่งเสริม HEV/MHEV เมื่อธ.ค.67 ที่ผ่านมาก โดยให้ปรับลดภาษีสรรพสามิตรถ HEV และ MHEV

• Alibaba cloud เปิด Data Center แห่งที่สองในไทย รองรับ Generative AI และโซลูชันเฉพาะทางในอุตสาหกรรม Fintech, media, commerce และอื่นๆ และจะเปิดโซลูชันใหม่ เช่น AnalyticDB และ ACS ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูล

• Apple ตัดสินใจใช้เทคโนโลยี AI ของ Alibaba บน iPhone ในประเทศจีน เนื่องจากข้อกำหนดด้านกฎหมายที่ต้องใช้บริษัทท้องถิ่นที่ได้รับการรับรอง .... เป็นผลดีกับ Alibaba ที่ได้ถูกเลือก เนื่องจากในประเทศจีนมีการแข่งขันด้าน AI สูง

•  รมว.คลัง ลั่น เล็งทบทวนการเก็บ ‘ภาษีเงินได้ลงทุนต่างประเทศ’ หวังดึงเม็ดเงินลงทุนกลับเข้าไทย หลังพบคนไทยลงทุนหุ้นนอกเยอะ และปรับเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ OECD ด้วย ……  ข่าวนี้ เมื่อผนวกกับ การสลับ LTF มาเป็น TESG เป็นแนวคิดของ รมว.คลัง เป็นสัญญาณว่าทางการพยายามเข้ามาดูแลตลาด (แม้วิธีนี้ จะได้ผลไม่มากก็ตาม)

• Event วันนี้ :  DELTA ส่งงบ 4q (Bloomberg Survey =5.1 พันลบ.) ,  World Bank ออกรายงาน “Thailand Economic Monitor” โดย ล่าสุด คาดการณ์ GDP ปี ’24- ’25 ไว้ที่  2.6% และ 2.9% ตามลำดับ และคืนนี้รายงานมีตัวเลข GDP 4q ของอียู(14)

• แนวโน้มตลาดยังเป็นขาลง สัญญาณซื้อของตลาด จะเกิดอีกครั้งเมื่อผ่าน 1300 จุด ...... การเข้าลงทุน(ซื้อ) ยังต้องใช้ความระมัดระวัง

• สัปดาห์หน้า จะเริ่มมีหุ้นทยอยส่งงบที่มากขึ้น (โดยเฉพาะงบไม่ตรงปี) และจะมีการทยอยขึ้นเครื่องหมาย “XD” หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ GULF, ADVANC, INTUCH  (ไม่ควรไล่ราคาหุ้นเหล่านี้) โดยราคาหุ้นอาจปรับตัวลงหลังขึ้นเครี่องหมาย และมีผลมาถึงดัชนีฯด้วย

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด หุ้นในพอร์ต ประกอบด้วย CPALL(10%), TTB(10%)

 

 

 

( + ) MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) NH ประกาศกำไรปกติ 4Q24 ที่ราว 2.3 พันล้านบาท ดีกว่าคาด
( 0 ) Ground Transport (Neutral) รมว.คมนาคม สั่ง รฟม. เร่งเจรจาเอกชนแก้สัมปทานก่อนการเริ่มใช้มาตรการค่าโดยสาร 20 บาท

 

( + ) PLANB (ซื้อ/เป้า 8.80 บาท) แจ้งเข้าลงทุน Hello LED 100% และเพิ่มทุน PP ให้ VGI และ Win Harvest

( + ) KLINIQ (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) ปี 2025E กำไรเติบโตในทุกไตรมาส

Results Review:
( - ) AOT (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 67.00 บาท) 1QFY25 เติบโตน้อยกว่าคาด จากรายได้สัมปทานที่เพิ่มขึ้นช้า

( - ) EPG (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 4.00 บาท) กำไรปกติ 3QFY24 ลดลงใกล้เคียง consensus จากกำไร JV ลดลง

( - ) ITC (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 19.00 บาท) กำไรปกติ 4Q24 ต่ำคาด จาก SG&A สูงขึ้นตามแผน transformation

( - ) SUN (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 4.40 บาท) คาดกำไร 4Q24E ชะลอตัวจากน้ำท่วม
( - ) CPN (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) กำไรปกติ 4Q24E ลดลง YoY/QoQ จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น