SET Outlook
- คาดกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ 1365-1430 จุด (สัปดาห์ที่ผ่านมา 1,399.35 จุด /-3.8%)
- ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ มีความผันผวนสูง สถานการณ์ตะวันออกกลางยังไม่ดีขึ้นทำให้เกิด ความเสี่ยงที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า และมีผลไปถึงสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก (บวกต่อ น้ำมัน+ทองคำ)
- ความกังวลดอกเบี้ยยังคงเข้ามาในตลาดเป็นระยะ ที่ต้องจับตา คือ Bond Yield สหรัฐฯ ว่าจะ ปรับตัวสูงขึ้นต่อหรือไม่ จะเป็นตัวกดดันตลาด
- ไทยอยู่ในช่วงของการรายงายงบ 3Q ซึ่งไม่ได้เป็นตัวช่วยตลาดมากนัก Flow ยังคงไหลออก
Strategy
- ความเสี่ยงในเรื่องอิสราเอล จะกระทบต่อการลงทุนในทุกๆ สินทรัพย์ รวมทั้งผลประกอบการ 3Q ที่คาดว่าหุ้นส่วนใหญ่กำไรจะลดลง QoQ เราแนะนำให้ถือเงินสดให้มากไว้ก่อน ชะลอการซื้อ หุ้นจนกว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะเริ่มทรงตัวหรือดีขึ้น
- แม้หุ้น PTTEP จะยังได้ประโยชน์จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่เรายังแนะนำให้ลงทุน ด้วยความระมัดระวัง เพราะการสูงขึ้นของดอกเบี้ยสหรัฐฯและเงินเฟ้อ กระทบต่อเศรษฐกิจและ ความต้องการใช้น้ำมัน
- เรายังประเมินว่าทิศทางตลาดยังมีความเสี่ยงขาลง โดยเฉพาะถ้าดัชนีฯ ลงไปต่ำกว่าระดับ 1400จุด เราจึง ลดหุ้นลงและกลับมาถือเงินสด(90%) เพื่อรอจังหวะซื้อ เมื่อดัชนีฯเริ่มฟื้นตัว
- พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ KCE, SCB ออก และคงเหลือหุ้นในพอร์ต ไว้เพียงตัวเดียว คือ BEM(10%)
* เป็นหุ้นที่ทาง DAOL ไม่ได้มีการทำบทวิเคราะห์
Technical : JTS, SFLEX
Results Review:
( + ) KBANK (ปรับขึ้นเป็น ซื้อ/ปรับเป้าขึ้นเป็น 155.00 บาท) 3Q23 ดีกว่าคาด และคุณภาพของสินทรัพย์เริ่มดูดีขึ้น
( - ) SCB (ปรับลงเป็น ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 110.00 บาท) กำไร 3Q23 ต่ำคาดจากสำรองฯที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
( - ) KKP (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 52.00 บาท) กำไร 3Q23 ต่ำคาดจากสำรองฯเพิ่มขึ้นและขาดทุนรถยึดที่สูงมาก
Company Update:
( - ) SPALI (ถือ/ปรับเป้าลงเป็น 20.50 บาท) 3Q23E จะชะลอตัวตามยอดโอน รอฟื้นตัว 2024E จากคอนโดใหม่
First Trading Day :
TRP (IPO/เป้า 22.00 บาท) หน้า สวย ครบ จบ ที่ธีรพรคลินิก