• คาดดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบแคบ ตัวแปรกดดันตลาดหลักๆ คือ Recession และราคาน้ำมันที่ร่วงลง บดบังมาตรการ Covid ของจีน

• แนวโน้มการเกิด Recession ของสหรัฐฯ ยังมีผลต่อตลาดอยู่(มาก) นักลงทุนปรับพอร์ตรับการเกิด Recession ในช่วงปีหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อนักลงทุนบางส่วนรอดูผลประชุม FOMC สัปดาห์หน้า(14) ที่คาดว่าดอกเบี้ยครั้งนี้จะขึ้นที่ 0.50%

• ราคาน้ำมันเป็นตัวกดดันตลาดหุ้นไทย หลังจากปรับตัวลดลงล่าสุด $77.1 เหรียญ ซึ่งปรับตัวลงล้อเป็นกับเรื่องความกลัว Recession และการกำหนด Price cap. ของรัสเซีย กระทบหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมี

• จีนประกาศ 10 มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม หุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ (อิเล็กทรอนิกส์+เดินเรือ+โลจิสติกส์)

• เนเธอแลนด์จับมือกับสหรัฐฯ เตรียม ban การขายเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต Chip ให้กับจีน

• ภาษีขายหุ้นกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในตลาด วันนี้เป็นลบต่อตลาด แต่หากมีกระแสโจมตีในทางลบมากๆ อาจถูกเลื่อนการเก็บภาษีนี้ออกไปก็ได้

• ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ

• ตลาดให้น้ำหนักไปที่ความกังวล Recession ของสหรัฐฯ และรอประชุม FOMC สัปดาห์หน้า (14) ทำให้ตลาดพักตัวชั่วคราว นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนและไปดูแนวรับถัดไปแถวๆ 1610 จุด

• หุ้นราคาลงมาลึก มีโอกาสดีดตัวกลับ DOHOME, HENG, ASIAN

• พอร์ตหุ้นวันนี้ เราเพิ่ม DITTO* เข้ามาในพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย DITTO*(10%),  WHA(15%), AAV(15%), SINGER(15%), CPF*(10%), BDMS(10%), III*(10%)

SET Recap

SET ปิดที่ 1,622.28 จุด ลดลง 10.69 จุด (-0.65%) มูลค่าการซื้อขาย 55,955.83 ล้านบาท ปัจจัยต่างประเทศ จีนเริ่มคลายมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ตัวแปรในประเทศ เงินบาทแข็งค่า ต่างชาติเทขายหุ้นน้ำมัน

( 0 ) Energy (Neutral) รัสเซียกำลังพิจารณาในการตั้ง price floor สำหรับการขายน้ำมันระหว่างประเทศ

( + ) NEX (ซื้อ/เป้า 24.00 บาท) ผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ไทยที่มีการเติบโตสูง

( + ) CPALL (ซื้อ/ปรับเป้าขึ้นเป็น 75.00 บาท) 4Q22E ฟื้นตัวดีจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และหนุนจากมาตราการภาครัฐ