SET Outlook
• คาดดัชนีฯ ยังปรับตัวขึ้นต่อ จีนยังเป็นตัวแปรหลักที่ช่วยหนุนตลาด และเงินบาทแข็งค่าในรอบหลายเดือน
• จีน ยังเป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ นักลงทุนยังเชื่อว่าจีนจะต้องมีการผ่อนคลายมาตรการ ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องมีการปรับตัวขึ้นมาบ้างแล้ว
• สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย มีความเคลื่อนไหว คือ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ จับมือกับ มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เพื่อที่จะสนับสนุนยูเครนในด้านต่าง ๆ และจะมีการพูดคุยกับปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อหาทางออกของความขัดแย้งครั้งนี้ เรามองว่าหากสถานการณ์ดีขึ้น จะลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และบวกต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ MINT แต่หากสถานการณ์แย่ลงก็จะพลิกกลับด้านกัน
• การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ค่อย ๆ ชะลอตัว และส่งผ่านตลาดมาทาง Dollar ที่อ่อนตัวลง (ล่าสุด Dollar Index 104.7 จุด) กอปรกับเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นแตะ 34.8 บาท/ดอลลาร์ ในรอบหลายเดือน และ Flow ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ วานนี้(1) Net buy 1.3 พันล้านบาท
• หนี้เสียภายใต้ข้อมูลเครดิตบูโรปี 65 พุ่งถึง 1.1 ล้านล้านบาท เรามองว่าหากหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มธนาคารอาจจะต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความสมารถในการชำระหนี้ได้ต่ำลง
• ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (คาดจะปรับตัวน้อยลงกว่าเดือนก่อน)
Strategy
• ตลาดยังได้อานิสงค์จากการที่นักลงทุนในตลาดโลกเก็งเรื่องจีนผ่อนคลายมาตรการ และ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยลง หุ้นที่จะเป็นกลุ่มนำคือหุ้นที่ราคาลงมาลึกจากความกังวลเรื่องของจีนก่อนหน้านี้ วันนี้ ให้น้ำหนักกับกลุ่มอีเล็คทรอนิคส์ (KCE, HANA) และเดินเรือ (PSL, RCL)
• พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ CHG, WHA, BANPU ออก และเพิ่ม TIDLOR, KCE, CBG เข้ามาในพอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย TIDLOR(10%), KCE(10%), CBG(10%), NER(10%), CPF*(10%), BDMS(10%), III*(10%), JMT(10%), NEX*(10%)
SET Recap
SET ปิดที่ 1,648.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด (+0.80%) มูลค่าการซื้อขาย 75,294.11 ล้านบาท ปัจจัยต่างประเทศ Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป และความคาดหวังจีนจะมีมาตรการผ่อนคลาย ตัวแปรในประเทศ เงินบาทแข็งค่า และ Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย
* เป็นหุ้นที่ทาง DAOL ไม่ได้มีการทำบทวิเคราะห์
Technical : FORTH, KCC
News Comment:
( + ) AOT (ซื้อ/เป้า 82.00 บาท) ผู้โดยสารฟื้นดีต่อเนื่อง 1QFY23E จะเริ่มพลิกเป็นกำไรเล็กน้อย
Company Update:
( + ) BBIK (ซื้อ/ปรับเป้าขึ้นเป็น 165.00 บาท) ประกาศ 2 ดีลใหม่ หนุนกำไรเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง
( 0 ) SYNEX (ถือ/เป้า 17.00 บาท) ระยะสั้นยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และ iPhone ขาดแคลน