SET Outlook
• คาดตลาด รอดูมาตรการเศรษฐกิจใหม่ของทั้งไทยและจีนกลางสัปดาห์ ต่างประเทศจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
• ตลาดเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปี นักลงทุนทยอยเข้าเก็บหุ้น(ใหญ่) รวมทั้งหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี ส่วนแรงขายทำกำไรมีตามปกติ ...... สัปดาห์นี้ มีเรื่องใหญ่ๆ คือ มาตรการเศรษฐกิจของจีนและไทย รวมทั้งเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายก่อนประชุม FOMC ...... ประเมินกรอบดัชนีฯ สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1430-1470 จุด
• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาที่ +2.27 แสนตำแหน่ง สูงกว่าประมาณการ(+2.1 แสนตำแหน่ง) และอัตราการว่างงาน ขยับสูงขึ้น ในเดือน พ.ย. ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ มิเชลล์ โบว์แมน ย้ำว่าเธอต้องการลดอัตราดอกเบี้ย ด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ
• Fed ยังคงคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป 17-18 ธ.ค.นี้ แต่นักลงทุนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบเข้มงวด(เพียง 0-0.25%) และตั้งคำถามว่ามีแนวโน้มว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงต้นปี 2568 หรือไม่ โดยข้อมูลสำคัญชิ้นต่อไปจะเป็นรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า กล่าวคือ สหรัฐฯจะรายการตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคและเงินเฟ้อผู้ผลิต ในวันที่ 11 และ 12 ธ.ค. ตามลำดับ ..... เรามองว่า เหตุนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก รอดูผลประชุม FOMC
• สงครามการค้า บีบให้รัฐบาลต่างๆ ทั่วภูมิภาคกำลังเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องตนเองจากภาษีของทรัมป์ เวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการย้ายฐานการผลิตของจีนออกไปนอกประเทศ ได้ให้คำมั่นแล้วว่าจะสั่งซื้อเครื่องบิน ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากสหรัฐฯ มากขึ้น เจ้าหน้าที่มาเลเซีย กล่าว เมื่อสัปดาห์นี้ว่า เขาเตือนบริษัทจีนไม่ให้ลงทุนเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ
• ประธานสภาเกาหลีใต้ประกาศสิ้นสุดการลงมติญัตติถอดถอนประธานาธิบดี ยุนซอกยอล ……แม้ว่ายุนจะรอดพ้นจากการถอดถอนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ความวุ่นวายทางการเมืองดูท่าจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านยืนยันว่าจะยื่นญัตติถอดถอนต่อไปจนกว่ายุนจะถูกถอดถอน (ฝ่ายค้านจะเสนอครั้งต่อไป 14 ธ.ค.) ..... เรามองว่า ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไต้หวันจะได้ประโยชน์
• ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลายรายอาจละทิ้งหรือลดความสนใจในเรื่องการอุดหนุนภาษีและอากรนำเข้าที่รัฐบาลไทยเสนอให้ เนื่องจากอำนาจการซื้อที่อ่อนแอและเงินกู้ธนาคารที่เข้มงวดยิ่งขึ้นทำให้ความต้องการลดลง ..... ข่าวนี้ ลบต่ออุตสาหกรรม EV ของไทย และหุ้นนิคมฯ
• FTSE SET Index Series ประกาศชื่อหุ้นคำนวณดัชนีฯ SET Index Series รอบเดือน ธ.ค.24 โดยจะใช้ราคาปิด 20 ธ.ค.67 เพื่อ rebalance หุ้นที่เข้า Large-Cap คือ MINT โดย EA ถูกนำออก ..... ในส่วนของ Mid-Cap หุ้น EA และ CCET จะเข้าคำนวณ ส่วน B-LAND, BYD, MINT(ย้ายไป Large) , ORI, SPCG ถูกนำออก
• หุ้น DELTA เทรดด้วย Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.-11 ธ.ค. ….. เราประเมิน ถ้าปลด lock ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อได้
• Event สำคัญสัปดาห์นี้ : ตัวเลขเงินเฟ้อจีน (9) ตัวเลขส่งออกของจีน(10) ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ(คาด 2.7%)(11) เงินเฟ้อผู้ผลิตของสหรัฐฯ (12)
Strategy
• ตลาดหุ้นมี event และตัวเลขที่มีผลต่อตลาด คาดจะผันผวนสูง และจะแผ่วปลาย(สัปดาห์) เนื่องจากสัปดาห์ถัดไปจะมีการประชุม FOMC ….. กลยุทธ์ลงทุน ปรับกรอบเวลาลงทุนเน้นเล่นสั้นๆ ให้ความสนใจกับหุ้นใหญ่ไว้ก่อน
• ฤดูกาลซื้อหุ้นรับเงินปันผล SCB (ไม่ซื้อเพิ่ม) แต่แนะให้ไปที่ TTB แทน โดยยังคง PTT* ไว้
• เรายังให้น้ำหนักกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล list ของการเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์ แต่ละด้าน อาทิ Data Center (GULF) ลงทุน(WHA) สาธารณสุข (BDMS) และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย (CPAXT)
• หากจีน มีการออกมาตรการเศรษฐกิจ ที่นักลงทุนมองว่าเป็นบวก หุ้นไทยที่อิงกับเรื่องนี้ คือ RCL* และ หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และน้ำมัน เราเลือก SCGP, PTTEP
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย SCB(15%), CPF*(15%), COM7*(10%), HMPRO(10%), PTT*(20%), BDMS*(10%)
Technical : BA, ICHI
News Comment:
( + ) STECON (ขาย/เป้า 7.00 บาท) แจ้งลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีส้ม
( 0 ) Energy (Neutral) ซาอุฯปรับลดราคาน้ำมันขายให้เอเชียมากกว่าคาด
Company Update:
( + ) SISB (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) 4Q24E โตเด่น, Halving project หนุนการเติบโตระยะยาว