logo
search
flag-th
share-icon

คัดหุ้นเด่นจากการเข้าลงทุนใน ESG FUND

News

กระทรวงการคลังหารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG โดยกำหนดเงื่อนไขให้ประชาชนที่ซื้อกองทุนดังกล่าวสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อกองทุนไปลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท โดยใช้ระยะเวลาในการลงทุน 8 ปีเต็ม คาดว่ากองทุน TESG จะเริ่มเปิดให้ลงทุนได้ในเดือน ธ.ค.23 เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาลงทุนได้รับการลดหย่อนภาษีในเดือน มี.ค.24 ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.23 SET ได้ประกาศผลหุ้นยั่งยืนประจำปี 2023 SET ESG Ratings จำนวน 193 บริษัท (Fig.2) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 13 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 72% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ MAI (ณ 1 พ.ย.23)

(ที่มา: อินโฟเควสท์ฐานเศรษฐกิจ)

Implication

เรามองเป็นบวกต่อ SET Index หากกองทุน TESG ได้รับการอนุมัติเริ่มใช้ในเดือน ธ.ค.23 จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท และจะช่วยหนุนให้หุ้นที่อยู่ในรายชื่อ SET ESG Ratings จะ outperform SET ได้ ทั้งนี้ เราได้เลือกหุ้นที่น่าสนใจ 10 ตัว ที่ได้รับการจัดอันดับใน SET ESG Ratings ซึ่งเป็นหุ้นเด่นของ DAOL มีผลการดำเนินงานที่ดีใน 4Q23E และปี 2024E รวมถึงราคาหุ้นยัง laggard มากสุด YTD เรียงตามลำดับ ดังนี้

IVL (ซื้อ/เป้า 29.00 บาท) คาดกำไร 4Q23E ฟื้นตัวจากการลดอัตราการใช้กำลังการผลิตของบริษัทผลิต PET ในจีนใน 4Q23E และคาดว่าปริมาณขายน่าจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2024E จากการลดระดับสินค้าคงคลังที่ลดน้อยลง YoY

SJWD (ซื้อ/เป้า 16.50 บาท) กำไรจะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นใน 4Q23E และปี 2023E จากค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการที่ลดลง และธุรกิจหลัก ได้แก่ ห้องเย็น และยานยนต์ จะยังเติบโตดีต่อเนื่อง

BGRIM (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) ผลประกอบการระยะยาวกลับมาฟื้นตัวได้โดยประเมินแรงกดดันจากการแทรกแซงค่าไฟฟ้าของภาครัฐผ่อนคลายลง และยังได้โครงการใหม่ทั้งในและต่างประเทศหนุน ประเมินกำไรโตเฉลี่ย 23% CAGR2023E-25E

EPG (ซื้อ/เป้า 9.00 บาท) ผลการดำเนินงานจะยังเติบโต YoY ได้ดีต่อเนื่องใน 2HFY24E จากการฟื้นตัวของทุกกลุ่มธุรกิจทั้ง Aeroflex, Aeroklas และ EPP

CBG (ซื้อ/เป้า 109.00 บาท) กำไร 4Q23E โต YoY, QoQ จาก high season, GPM ขยายตัว จากต้นทุน packaging ที่ลดลง และเริ่มรับรู้รายได้จากการจัดจำหน่ายเบียร์

HMPRO (ซื้อ/เป้า 16.30 บาท) 4Q23E ขยายตัว QoQ จากกิจกรรมตกแต่งซ่ิอมแซมฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึง 1Q24E และคาดได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หนุนกำลังซื้อ ทำให้ 2024E เติบโตได้

BEM (ซื้อ/เป้า 10.40 บาท) 4Q23E โต YoY โดยกำไรปกติปี 2024E จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่และปี 2024E จะดีต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้โดยสารรถไฟฟ้า อานิสงส์กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ระดับปกติและรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่

KTC (ซื้อ/เป้า 55.00 บาท) คาดกำไร 4Q23E จะขยายตัว YoY จากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วง Festive season ขณะที่หดตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้นเป็นปกติ

OR (ซื้อ/เป้า 22.00 บาท) คาดว่ากำไร 4Q23E จะเห็นการเติบโต YoY หนุนโดยปริมาณขายน้ำมันที่สูงขึ้น นอกจากนี้ เราเห็นความเสี่ยงด้านนโยบายที่จำกัดมากขึ้นหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ และราคาดีเซลไปแล้ว

CPALL (ซื้อ/เป้า 80.00 บาท) คาดกำไร 4Q23E ได้แรงหนุนจากค้าปลีกที่ฟื้นตัวและเป็น high season, และคาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องไปใน 2024E จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์