ws Flash
นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (7-13 ก.ค.) เพิ่มขึ้น +0.3% WoW จากอินเดียและจีน ขณะที่ยังหดตัวลง -19% YoY รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (7-13 ก.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 570,747 คน (+0.3% WoW/-19% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 81,535 คน โดยประเทศที่เพิ่มขึ้นเรียงตามลำดับ คือ 1) อินเดีย 42,626 คน (+5% WoW/+21% YoY) 2) จีน 92,110 คน (+3% WoW/-41% YoY) 3) รัสเซีย 18,050 คน (+1% WoW/+0.2% YoY) และ 4) เกาหลีใต้ 23,963 คน (+2% WoW/-25% YoY) 4) มาเลเซีย 81,761 คน (+1% WoW/-17% YoY) ขณะที่ประเทศที่ลดลงคือ ออสเตรเลีย 19,588 คน (-7% WoW) โดยการเพิ่มขึ้นมาจากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วง Summer holiday ของภูมิภาคยุโรป อาทิ ฝรั่งเศวและเยอรมนี ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ชะลอตัวด้านการเดินทางหลังสิ้นสุดการเดินทางช่วงวันหยุด สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 ก.ค. 25 ทั้งสิ้น 17,754,055 คน ลดลง -6% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)
Implication
เรามองเป็นบวกเล็กน้อยจากตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพราะได้นักท่องเที่ยวจีนและรัสเซียที่ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องมาช่วยหนุน โดยประเทศจีนเป็นช่วงปิดเทอม (ต้นเดือน ก.ค.-ปลายเดือน ส.ค. 25) ทำให้เราคาดว่าสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวได้ต่อได้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรวม YTD ยังคงหดตัวลง -6% YoY โดยเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าสู่ช่วง Low season ของไทย
คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวม/นักท่องเที่ยวจีนปี 2025E ที่ 34.5 ล้านคน/5 ล้านคน เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2025E จะอยู่ที่ 34.5 ล้านคน ลดลง -3% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 5 ล้านคน ลดลง -26% YoY โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นได้อย่างชัดเจนใน 4Q25E ขณะที่ความเสี่ยงในประเทศเริ่มมากขึ้นจากปัจจัยเรื่องการเมืองซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่เราคาดได้
Valuation/Catalyst/Risk
เราให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่ม เราเลือก CENTEL, MINT
CENTEL (ซื้อ/เป้า 29.00 บาท) จาก valuation ซื้อขายที่ 2025E EV/EBITDA ที่ 9x (-1.75SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW ที่ 11x ขณะที่ไม่มีปัจจัย Overhang อย่าง ERW นอกจากนี้คาดว่าแนวโน้มกำไร 3Q25E จะฟื้นตัว QoQ ได้ตามยอด Booking ที่เพิ่มขึ้น และฟื้นตัวเด่น 4Q25E จากการเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินมัลดีฟส์และนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว
MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2025E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่ 2Q-3Q25E จะเป็นช่วง High season ที่ยุโรป และได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่ากลุ่ม ประกอบกับที่ยุโรปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก