SET Outlook

• ตลาดกลับมาแกว่งในกรอบแคบ หลังข่าว TESG ไม่ได้ช่วยทำให้ตลาดฟื้นขึ้นมาได้

• "Thai ESG" ที่ออกมาใหม่ แม้จะมีเงื่อนไขที่ดีคือ ถือครองเพียง 5 ปี แต่ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนกลับมาลุยซื้อหุ้น โดยจุดสูงสุดของวานนี้ (25) ดัชนีฯ ขึ้นไปได้เพียงแตะ 1323 จุด และปิดที่ 1319 จุด เป็น Indicator ชี้ตลาดหุ้นในวันนี้ได้ว่า มีอะไรที่นักลงทุนต้องการ(จากรัฐบาล)มากกว่านี้ หุ้นที่เป็นตัวเต็งของ TESG ยืนเขียวจนปิด ได้เพียงบางตัว อาทิ  ADVANC , CPALL บางตัวลงไปปิดลบ เช่น AOT ที่นักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวลบส่วนตัวมากกว่าข่าว TESG  เรายังคาดหวังว่า เราน่าจะเห็น 1330 จุด ได้ในเร็วๆ นี้ แต่อาจต้องพึ่งตัวแปร(บวก)อื่นๆ ที่จะมีเข้ามาในตลาดด้วย

• มาตรการที่อยู่อาศัย  ที่ รมว.คลัง ขอเลื่อนออกไปก่อน จะเป็นลบต่อหุ้น อสังหาฯ ที่มีการซื้อเก็งกำไรเข้ามาจากเรื่องนี้

• ตลาดต่างประเทศ ส่วนใหญ่น่าจะแกว่งตัวแคบๆ ด้วยปัจจัยเฉพาะตลาด  ตลาดสหรัฐฯ มีแรงขายหุ้น Tech ซึ่งเป็นลบมาถึงหุ้นไทย (DELTA, HANA, KCE) และรอดูตัวเลข PCE (28) คาดว่าจะลดลง 0.1% ....ตลาดยุโรป รอดูผลเลือกตั้งสภาฯ ที่จะเริ่มช่วงวันหยุดนี้

• สงคราม อิสราเอล-ฮามาส ยังกดดันตลาดหุ้น และราคาน้ำมัน หลังอิสราเอลมีการโจมตีเลบานอน และกาซา อีกทั้งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน ปลายสัปดาห์นี้

• รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผย 1 ม.ค.-23 มิ.ย. 67 มีนักท่องเที่ยวเยือนไทยแล้ว 16.84 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36%YoY สร้างรายได้ 795,002 ล้านบาท .... นักท่องเที่ยวมีแนวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก อีกทั้งรัฐบาลเล็งตั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วง Low Season เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม และสายการบิน

• GULF จะได้ประโยชน์จากข่าว กพช.อนุมัติ Direct PPA นำร่อง 2 พัน MW หวังดึง Data Center ปักหมุดในไทย และวานนี้ (25) GULF ประกาศร่วมมือกับ Google ให้บริการระบบ Cloud ในไทย

• Event สำคัญๆ วันนี้ :  ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ และการเลือกตั้ง สว.ระดับประเทศ

 

Strategy

• ดัชนีฯ ไปได้ไม่ไกล แต่คาดที่จะกลับมาอยู่ในโซน 1320-1330 จุด คำแนะนำเรายังเป็นสะสมหุ้นหรือถือต่อ ... จุดที่บอกว่า การ rebound รอบนี้จบ คือ ลงไปต่ำกว่า 1310 จุด

• นักลงทุนที่จะสะสมหุ้นที่เป็น high dividend โดยเรามีหุ้นให้เลือก 2 ตัว คือ PTT (คาดจ่ายเงินปันผลปีนี้ @2.0 บาท ; Dividend Yield 6.2%) และหุ้น SCB (คาดจ่ายเงินปันผลปีนี้ @6-9 บาท ; Dividend Yield 6-8%)

• หุ้นใหญ่ ที่เก็งในเรื่องการตั้ง กองทุน ThaiESG 3 ตัว  CPALL, PTT, AOT เรายังมองว่า มีโอกาสที่จะถูกซื้อได้ (เมื่อนักลงทุนกลับมาสนใจกองทุนฯ นี้อีกครั้ง

• ชุดของหุ้นที่แนะนำ 4+4 ตัว  โดยหุ้นที่แนะนำให้ขายออก คือ  ICHI, GFPT, XO, BBIK แต่ยังให้ถือต่อ 4 ตัว คือ  BA, NER, CPAXT และ COM7 ….  อย่างไรก็ตาม หากราคาทั้ง 4 ตัวนี้ ขึ้น สามารถเลือกขายทำกำไรออกไปได้

• วานนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีก หลายตัวที่ขึ้นมามาก คาดมาจากราคาหุ้นที่ลงมามาก จึงมีการซื้อกลับ หรือมาจากการเก็งว่าตลาดหุ้นจะไปต่อ โดยหุ้นที่เตะตาเรา แต่มีโอกาสเล่นต่อได้ คือ HMPRO และ BJC

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย AOT(10%), CPAXT(10%)

 

Technical : SAV, SAFE

 

News Flash:

( + ) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับเกณฑ์ TESG

( - ) Automotive (Underweight) ยอดผลิตรถยนต์ พ.ค.24 ลดลง YoY ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10

( 0 ) SCB (ถือ/เป้า 110.00 บาท) ยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood

( 0 ) Tourism (Neutral) นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (17-23 มิ.ย.) ลดลง -3% WoW จากมาเลเซียลดแต่จีนเพิ่ม

 

Company Update:

( - ) KKP (ถือ/เป้า 52.00 บาท) กำไร 2Q24E ลดลง YoY/QoQ จากกำไรจากเงินลงทุนและ NIM ลด