SET Outlook
• คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวลง หลังสหรัฐฯจบภาษีเวียดนามที่ 20% และรอความชัดเจนในเรื่องการเมือง
• ตลาดหุ้นไทย เป็นสัปดาห์ที่มี event ของการเมืองเกือบทั้งสัปดาห์ วันนี้จะเริ่มประชุมสภาผู้แทนฯ ซึ่งจะมีการลงชื่อเพื่อขออภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูหรือเก็งกำไรช่วงสั้น ส่วนตลาดต่างประเทศเอง ตลาดสหรัฐฯจะหยุด 1 วัน และรอการเจรจาการค้า การที่เวียดนามปิดดีลเจรจาการค้ากับสหรัฐฯได้ อาจกดดันประเทศอื่นๆในวันนี้ได้
• ตลาดหุ้นต่างประเทศ สหรัฐฯ รอดูการผ่านร่างกฎหมายภาษีและรายจ่าย และวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงาน ก่อนที่จะเข้าสู่วันหยุด (วันชาติสหรัฐฯ) ส่วนตลาดเอเซีย ส่วนใหญ่ มี Flow ไหลเข้า ยกเว้นญี่ปุ่น ที่ถูกกระทบจากเงินเยนแข็ง และยังตกลงเรื่องการค้ากับสหรัฐฯไม่ได้
• การเมืองไทยวันนี้ เปิดสมัยการประชุมสภาฯ ปีที่ 3 โดยประเด็นหลักต้องติดตาม รอดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ (แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้) ขณะเดียวกันนายสุริยะ รักษาการนายกฯ จะนำทีมครม. ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน และประชุมครม.
• ทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม พร้อมภาษีนำเข้า 20% ขณะที่เวียดนามยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯทั้งหมด ทั้งนี้ เวียดนามนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ....... ข่าวนี้ มีผล 4 เรื่องหลักๆ 1)ทำให้การเจรจาของไทยประเทศต่างๆ ยากขึ้น เพราะต้องแลกภาษี(ต่ำ) กับมาตรการที่เอื้อต่อสหรัฐฯ ในลักษณะ non-tariff ที่มากขึ้น 2)ไทยจะเสียมากกว่าแผนเดิมที่คาดไว้ 3)หากไทยปรับลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯลงไปต่ำกว่าแผนเดิม (-14%) ผู้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จะเป็นผู้ได้ประโยชน์ เช่นผู้ขายโทรศัพท์ 4)จีนจะไม่พอใจเวียดนาม แต่อาจดีต่อไทยในเรื่องนี้ (จะชอบไทยมากขึ้น) บวกต่อหุ้นนิคมฯ
• การเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ มีนัดหารือวันนี้(3) 21.00 น. ตามเวลาไทย ......หลังเวียดนามปิดดีลไปแล้วเมื่อคืน ผลเจรจาอาจไม่ดีต่อไทย ขณะที่ไทย น่าจะต้องนำเสนอผลประโยชน์ที่สหรัฐฯจะได้ในส่วนที่เป็น non-tariff ด้วย ทาง DAOL ประเมิน ทุกๆ 10% ของอัตราภาษี จะมีผลต่อ GDP ราว 1.0% (ยังไม่รวมส่วนของอำนาจการต่อรอง และสินค้าของคู่แข่ง และสินค้านั้นมีความจำเป็นหรือไม่ ซึ่งต้องไปว่ากันเป็นตัวๆ ) อย่างไรก็ตามหุ้นในตลาดที่ได้รับผลกระทบจากภาษี มีขนาดของกำไร ไม่ใหญ่มากในตลาดหุ้น (ส่งออก ชิ้นส่วนรถยนต์ ยางพารา)
• คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แสดงความกังวลว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี และเรียกร้องให้ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง และเข้ามาดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว .... ภาพสะท้อนจากผู้ประกอบการ ที่มีผลมาถึงกำไรของหุ้นในตลาดในลำดับต่อไป ส่วนการประชุม กนง. ปีนี้เหลือ 3 ครั้ง (13 ส.ค. 8 ต.ค. และ 17 ธ.ค.) การปรับลดดอกเบี้ย จะเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารในเรื่องของ NIM
• Event วันนี้ : ศาลอาญานัดสืบพยานฝ่ายโจทก์คดีม.112 ของนายทักษิณ ชินวัตร(1-3), การเปิดสมัยประชุมสภาฯ ปีที่ 3, ทีมไทยแลนด์เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ, ครม.ชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ
Strategy
• ความผันผวนของตลาดมีสูง ด้วยเรื่องของความไม่มีเสถียรภาพของการเมือง ตลาดอาจสลับขึ้นวันลงวัน ในช่วงนี้ และวันนี้เจอเรื่องเจรจาการค้าสหรัฐฯ-เวียดนาม ซึ่งน่าจะเป็นข่าวเชิงลบ ตลาดจะผันผวนมากกว่าปกติ ..... กลยุทธ์ เล่นได้แค่เก็งกำไรช่วงสั้นๆ เราแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นที่ราคาลงมาลึกๆ หรือหุ้นที่ความแข็งแกร่ง และมีปันผลดีไว้ก่อน
• ปัญหาการเมืองไทย เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสนใจ ช่วงนี้ อาจต้องระวังหุ้นขนาดใหญ่ ที่นักลงทุนต่างประเทศชอบเล่นกัน (ยกเว้นหุ้นธนาคาร)
• list ของหุ้นที่ราคาลงมาลึก วันนี้ BGRIM, OSP, STA, JMT, CRC, SCGP, HANA, AMATA เป็นทางเลือกในการคัดหุ้นเพื่อเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ไปจนถึงถึงยาว(ในบางตัว)
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ BCH*, MTC* ออก และนำ DELTA* , KTC* เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย DELTA*(10%) , KTC*(10%), TRUE*(10%), PTTEP(10%), BGRIM(10%), CPALL(10%), SCB(10%)
Technical : TIDLOR, MOTHER
News Comment:
( + ) JPARK (ซื้อ/เป้า 7.25 บาท) รับงานใหม่ CIPS มูลค่าราว 100 ล้านบาท
News Flash:
( + ) Food & Beverage (Neutral) ราคาน้ำตาลตลาดโลกอยู่ทิศทางขาลง, ยุโรปเผชิญ Heatwave หนุนรายได้ส่งออก
Company Update:
( 0 ) AAI (ซื้อ/เป้า 6.00 บาท) แนวโน้ม 2Q25E ชะลอใกล้เคียงคาดจากบาทแข็งและต้นทุนทูน่าสูงขึ้น
( 0 ) SIRI (ถือ/เป้า 1.50 บาท) 2Q25E presales จะลดลงต่ำสุดของปี, กำไรยังไม่เด่นแต่ดีขึ้น QoQ