SET Outlook
• คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ ก่อนเข้าวันหยุด นักลงทุนส่วนใหญ่รอประเมินสถานการณ์การค้า และทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ
• ตลาดหุ้นไทย ตลาดน่าจะแกว่งกรอบแคบๆ นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อหลังดัชนีฯ (ไทย+สหรัฐฯ) ปรับตัวขึ้นมารับกับการผ่อนคลายมาตรการค้าของสหรัฐฯไประดับหนึ่ง นักลงทุนบางส่วนกำลังเฝ้าดูการรายงานกำไร หรือคาดการณ์กำไร 1Q ที่กำลังจะออกมา โดยเราประเมิน กำไร 1Q ว่าจะฟื้นจากไตรมาสก่อน หลังโดนกระหน่ำจากรายการพิเศษที่ค่อนข้างสูง
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้า 3 วันติดต่อกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ เพื่อตอบโต้ผลกระทบจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย …..ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวว่าเขาจะสนับสนุนการลดดอกเบี้ยหากมาตรการภาษีนำไปสู่การเลิกจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ...... เรามองเป็นข่าวบวก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดพันธบัตร และ Bitcoin แต่อาจทำให้ทองเสียความแข็งแกร่งด้านราคา
• ความกังวลในเรื่องสงครามการค้าลดลง แต่เหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ ไม่ได้กลับขึ้นไปมาก เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลหลงเหลือ ตรงที่ว่าภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจาก จีน อาจยังสูงถึง 50-60% และยังมีความไม่แน่นอนอีกด้วย ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ารอบใหม่นี้ได้
• ผลการดำเนินงานบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังถูกกระทบ จากภาษีที่เพิ่มขึ้นและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าผลกระทบจะมีความสำคัญมากขึ้นในไตรมาสต่อจากนี้ เนื่องจาก บริษัทใน S&P-500 มีสัดส่วนรายได้ในประเทศสูงถึง 72% ค่าเงินอ่อนจะทำให้ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น (หุ้นใน Stoxx Europe 600 มีสัดส่วนขายในประเทศเพียง 40%) …. คาดการณ์ EPS ของ S&P-500 งวด 1Q จะหดตัว 7.5% yoy …. เราประเมินว่า ด้วยแนวโน้มกำไรของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ไม่สดใสนัก จะจำกัดการสูงขึ้นของดัชนีฯ ไม่ให้กลับขึ้นไปที่จุดสูงสุดของเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ (S&P-500 สูงสุด 6147 จุด ; 19 ก.พ.68)
• ตลาดกำลังจะเข้าสู่การรายงาน กำไร 1Q-25 ของหุ้นต่างๆ เราจะเห็นการทำ Preview กำไรของหุ้นขนาดกลางและใหญ่อย่างต่อเนื่อง คาดว่ากำไรไตรมาสนี้ ราว 2.05 แสนลบ. -23% YoY ; +17% QoQ ฟื้นจาก 4Q ที่ 1.74 แสนลบ ที่มีรายการพิเศษสูงถึง -5 หมื่นลบ. ทั้งนี้ กำไรหุ้นธนาคาร ที่ออกมาเป็นกลุ่มแรก มีกำไรที่ขยายตัวถึง 14% ช่วยประคองกำไรของทั้งตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง
• ตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค.ที่รายงานไปเมื่อวานนี้ ที่ 17.8% อาจไม่ได้ช่วยหนุนตลาดได้มากนัก เพราะอาจมาจากการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีของสหรัฐฯจะมีผล โดยกลุ่มอีเล็คทรอนิคส์ ขยายตัวถึง 48% (บวกต่อ DELTA, HANA, CCET) ขณะที่ตัวเลขส่งออกทองคำ(ไม่แปรรูป) เดือนนี้ถึง $1.4 พันล้านเหรียญ .... กระทรวงพาณิชย์ ระบุชัดว่า เดือน เม.ย. ส่งออกไทยจะเริ่มได้รับผลจากเรื่องนี้ อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วย
• Event วันนี้ : DELTA, PTTEP ส่งงบ และ อดีตนายกอังกฤษ Tony Blair เข้าพบนายกฯ ของไทย
Strategy
• ดัชนีฯ กำลังเลือกทางเดินว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ หลังขึ้นมาถึงทางแยก 1050 จุด แล้ว เรายังวางกลยุทธ์ ให้หาจังหวะเข้าซื้อ แบบ Selective buy โดยเน้นไปที่หุ้นที่ราคาลงมาลึก และหุ้นที่เป็น high dividend yield (เราแนะนำ SCB)
• list หุ้น ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนที่จะซื้อหุ้นที่ราคาลงมาลึก WHA*, HANA* , JMT* และวันนี้ เราเพิ่ม BA*, KKP เข้ามาให้เลือก
• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ PTTEP, GULF ออก และนำ BA*, CPF*, KKP เข้ามาในพอร์ต หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BA*(10%), CPF*(10%), KKP(10%) DELTA*(10%), WHA*(10%), SCB(10%), CBG(10%)
Technical : FM, MCOT
News Comment:
( + ) SAV (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 180 ล้านบาท ไม่เกิน 12.8 ล้านหุ้น
News Flash:
( 0 ) Pet Food (Neutral), TU (ถือ/เป้า 12.00 บาท), NER (ถือ/เป้า 5.00 บาท), GFPT (ซื้อ/เป้า 12.00 บาท) ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงและไก่ มี.ค. 2025 ขยายตัว ขณะที่อาหารทะเลกระป๋องและยางกลับมาชะลอ MoM
Company Update:
( + ) OKJ (ปรับขึ้นเป็น ซื้อ/เป้า 12.00 บาท) 1Q25E คาดกำไรเติบโตจากการขยายสาขาและค่าใช้จ่ายที่ลดลง
( + ) MAGURO (ซื้อ/เป้า 26.00 บาท) คาดกำไร 1Q25E โตต่อ YoY จากการขยายสาขา
( + ) SNNP (ซื้อ/เป้า 17.00 บาท) คาดกำไร 1Q25E โตจากรายได้ในประเทศโตดี
( - ) Tourism (Neutral) ปรับเป้านักท่องเที่ยวรวมและกำไรกลุ่มลง, คาดกำไร 1Q25E จะน้อยกว่าตลาดคาด