SET Outlook

• คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ รอ “Trump” ขึ้นรับตำแหน่งและรอดูนโยบายการค้า

• ภาพการลงทุนของตลาดหุ้นไทย ยังถูกจำกัดกรอบการเล่น ตลาดขาดแรงซื้อที่ต่อเนื่อง ทำให้การซื้อขายมีการสลับหุ้นรายวัน โดยมีหุ้นที่มีการซื้อขายหลักๆ เพียงไม่กี่ตัว วานนี้ กลุ่มค้าปลีกเป็นตัวนำตลาด ดัชนีฯ จะออกแนว sideway มากกว่า คือต้องรอดูมาตรการค้าของสหรัฐฯหลัง 20 ม.ค.นี้ การลงทุนจึงเน้นไปที่หุ้นตัวใหญ่ ทั้งในแบบของการเก็งกำไรช่วงสั้นหรือซื้อเก็บ(หุ้นปันผลสูง)

• คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง …  เป็นสัญญาณที่ดีของตลาด ทองคำ   Bitcoin แต่เป็นลบต่อหุ้นธนาคารของไทยเล็กน้อย (ดอกเบี้ยลด NIM ลด) อย่างไรก็ตามหุ้นธนาคาร ยังมีจุดเด่นในเรื่องของเงินปันผลอยู่ แรงขายจึงมีแค่เพียงบางตัว

• “Trump” นำนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนใน Cryptocurrency ขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรกๆ (National Priority) หลังขึ้นรับตำแหน่ง  ......  เรามองเป็นข่าวบวกของ Bitcoin , หุ้นที่ลงทุนใน Bitcoin โดยของไทยจะเป็น JTS, BTC

• BOJ หรือธนาคารกลางญี่ปุ่น จะมีประชุมดอกเบี้ย 23-24 ม.ค. เวลานี้ ตลาดกลับมามองว่า มีโอกาส 70% ที่ BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย(0.25%) ในการประชุมครั้งนี้ .... ข่าวที่ออกมา  เป็นลบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น จาก Yen ที่จะแข็งค่าขึ้น ล่าสุด 155 เยน/ดอลล่าร์

• สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ Zhipu บริษัทสาร์ทอัพ AI ทีได้รับการสนับสนุนจาก Tencent และ Alibaba ห้ามผู้ผลิตสหรัฐฯขายสินค้าให้กับบริษัทดังกล่าว ตามมาตรการใหม่ป้องกันชิปขั้นสูงเข้าสู่ประเทศจีน

• ฮ่องกงเตรียมปรับขึ้นภาษี 16% สำหรับผู้มีรายได้สูงสุดตั้งแต่ 5 ล้านเหรียญฮ่องกง (6.42 แสนดอลลารร์สหรัฐฯ) ขึ้นไป การปรับขึ้นนี้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เพื่อแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณ และยังหารือการเพิ่มจำนวนผู้มีรายได้สูงสุด โดยลดเกณฑ์ขึ้นต่ำลงมา

• นายกฯ เปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัล ครั้งที่ 5 เน้น 3 ประเด็น: ต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์, จัดการข่าวปลอม และใช้ AI อย่างรับผิดชอบ พร้อมจัดการประชุมระดับโลกด้าน AI: Global Forum on the Ethics of AI ร่วมกับ UNESCO ในเดือนมิ.ย.68 นี้

• Event สำคัญ วันนี้ : นายกฯ ประชุมในเรื่องฟื้นความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน ,  GDP ไตรมาสที่ 4 ของจีน (17) (คาด 5.0% ; เดือนก่อน 4.6%)

 

Strategy

• ตลาดดีดตัวกลับมาในจุดก่อนลงแรงเมื่อสองวันก่อน แรงซื้อขายยังคงสลับหุ้นไปมา ......  กลยุทธ์ เรายังแนะให้ทยอยเลือกเก็บหุ้นที่แข็งแรง เน้นหุ้นขนาดใหญ่ไว้ก่อน

• เราคัดหุ้นที่คาด นักลงทุนต่างประเทศจะกลับเข้าซื้อ คง list เดิมของวันก่อนไว้ทั้ง 7 ตัว คือ  BDMS, BH, PTT, PTTEP, GULF , IVL , CPALL

• นโยบายการปรับลดค่าไฟฟ้าของไทย ที่ กกพ. ระบุว่าลดได้ทันที 0.17 บาท/หน่วย (ค่าไฟเฉลี่ย) จะมีผลกระทบต่อหุ้นโรงไฟฟ้า SPP และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพราะอันหลังจะถูกปรับลดส่วนต่างลงไปด้วย

• หุ้นในพอร์ตวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย PTTEP(10%), CPALL(10%), SCB(10%)

 

Technical  : BCPG, SAV

 

News Comment:

( + ) BTS (ถือ/เป้า 5.00 บาท) กทม. เตรียมจ่ายค่าจ้างเดินรถ O&M ปีละ 8 พัน ลบ. และเคลียร์หนี้ 1.1 หมื่น ลบ. ใน ก.พ.-มี.ค. 2025

( + ) AAV (ซื้อ/เป้า 3.60 บาท) บินกับ “ไทยแอร์เอเชีย” ลดหย่อนภาษีได้! โครงการ Easy E-Receipt 2.0

( 0 ) BBL (ซื้อ/เป้า 186.00 บาท) ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2025E ที่ 3-5% ตามคาด จากอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว

 

News Flash:

( - ) Power (Overweight) กกพ. เสนอแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าลง 0.17 บาท/หน่วย

 

Company Update:

( + ) MASTER (ซื้อ/เป้า 64.00 บาท) กำไร 4Q24E ทำ All Time High, Valuation ไม่แพง

( 0 ) CPAXT (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท) คาดกำไร 4Q24 ทรงตัว YoY และโต QoQ จากค่าใช้จ่ายที่สูง

( 0 ) TOP (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท) คาด Market GRM ฟื้นตัวใน 4Q24E; CFP ยังรอความชัดเจน