• คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลง ดอลล่าร์แข็ง ราคา Gas พุ่ง กดดันตลาดหุ้น ขณะที่นักลงทุนรอติดตามการเมือง

• การแข็งค่าของดออล่าร์ ทั้งจากการคาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐฯ และความเสี่ยงที่มาจากยุโรป จะทำให้นักลงทุนมีการลดความเสี่ยงและหันไปถือเงินสดมากขึ้น

• ความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กลับมาในตลาดอีกครั้ง จากการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. กระโดดไปที่ 0.75% จากเดิมที่ 0.50% ซึ่งอาจจะมีผลมาถึงตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ด้วย

• ราคาก๊าซและพลังงานในยุโรปพุ่งขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณก๊าซของรัสเซียรัสเซีย (ล่าสุด 273 ยูโร/เมกกะวัต)  Gazprom ประกาศว่าจะหยุดซ่อมแซมท่อส่งก๊าซ 31 ส.ค.-2 ก.ย. ราคา Gas เพิ่มขึ้นทั้งสหรัฐฯ-ยุโรป-เอเซีย มีผลกระทบต่อหุ้นโรงฟ้าของไทยด้วย เพราะมีการนำเข้า LNG มาใช้

• การเมืองของไทย หากประเมินจากการได้อยู่ดำรงตำแหน่งต่อของนายกฯ อาจจะทำให้เกิดการประท้วง จะเป็นตัวกดดันตลาดหุ้นไทย รวมถึงอาจจส่งผลถึง Flow ที่ไหลออก และเงินบาทอ่อนค่า

• นักท่องเที่ยวเข้าไทย เดือน ก.ค 1.1 ล้านคน ขณะที่ ททท. คาดครึ่งปีหลัง นักลงท่องเที่ยวต่างชาติจะไหลเข้าไทยมากขึ้น เรามองว่าจะเป็นตัวช่วยหนุนเศรษฐกิจ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว

• ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ยอดขายบ้านสหรัฐฯ

 

• ปัจจัยลบจากฝั่งยุโรป เข้ามาแบบไม่ตั้งตัว เรายังคงคำแนะนำให้ถือเงินสด 50% ไว้ รอซื้อเมื่อตลาด(คาดว่า)ถึงจุดต่ำสุด หรือความกังวลลดลง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองของไทยเอง

• ราคา  Gas ที่สูงขึ้นทั่วโลก และกระทบเศรษฐกิจยุโรป นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในหุ้นที่มีฐานรายได้ในยุโรป  หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ และหุ้นโรงไฟฟ้าของไทย

• จับกระแสเก็งกำไรช่วงสั้นๆ หุ้นราคาลงมาลึก เราชอบ BLA, TQM

• พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำ BH ออกจากพอร์ต และเพิ่ม SINGER  เข้ามาให้พอร์ต พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย SINGER(10%), SISB*(10%), CPALL(10%), MEGA(10%), BAM(10%), HMPRO(10%)

 

SET ปิดที่ 1,615.82 จุด ลดลง 10.10 จุด (-0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 57,090.04 ล้านบาท ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดรอดูการประชุม Jackson hole สัปดาห์หน้า ตัวแปรในประเทศ นักลงทุนรอติดตามการเมืองไทยการครบวาระนายกฯ ที่กำลังเป็นที่สนใจตอนนี้

 

 

( 0 ) SEAFCO (ขาย/เป้า 2.50 บาท) แจ้งรับงาน 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 208 ล้านบาท

 

( + ) Bank (Overweight) สินเชื่อ ก.ค. 22 เพิ่มขึ้น MoM จากสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก

 

( + ) CK (ซื้อ/เป้า 25.40 บาท) ความคืบหน้าโครงการและ backlog ยังดีตามคาด, 3Q22E โตต่อเนื่อง

( + ) KTB (ซื้อ/เป้า 18.00 บาท) มองบวกจากประชุม, สำรองไม่เพิ่มขึ้นแรงและมี upside จากเป๋าตัง

( - ) SHR (ซื้อ/ปรับเป้าลงเป็น 5.00 บาท) มองลบจากค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคาด แต่ 2H22E พลิกเป็นกำไรได้