เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2024E ที่ 38.00 บาท อิง 2024E PER 27.8x (-0.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ระยะยาว) SCGP รายงานกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 1.45 พันล้านบาท (-2% YoY, -16% QoQ) ส่วนกำไรปกติอยู่ที่ 1.50 พันล้านบาท (+9% YoY, -10% QoQ) สอดคล้องกับที่ consensus และเราคาด โดยสูงขึ้น YoY หลักๆจากปริมาณขายที่สูงขึ้น ขณะที่ลดลง QoQ ตามต้นทุนวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (RCP) ที่สูงขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปิดซ่อมบำรุงโรงเยื่อกระดาษ ทั้งนี้ เราเชื่อว่าบริษัทน่าจะเห็นกำไร 2H24E สูงขึ้น YoY ตามปริมาณขายที่สูงขึ้น และปรับราคาขายเฉลี่ย (ASP) ขึ้นได้ ช่วยชดเชยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัท PT. Fajar Surya Wisesa Tbk. (Fajar) ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 1H24 ที่ 0.25 บาทต่อหุ้น (สะท้อนอัตราจ่ายเงินปันผลที่ 34%) โดยจะขึ้น XD วันที่ 6 ส.ค. 2024

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E-2025E ที่ 5.9-6.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจาก 5.2 พันล้านบาทในปี 2023 โดยมีสมมติฐานสำคัญ คือ 1) ปริมาณขายรวมจะอยู่ในช่วงที่สูงที่ 5.8-6.0 ล้านตัน (mt) เทียบกับ 5.5 mt ในปี 2023 2) ราคาขายเฉลี่ย (blended ASP) จะลดลงอยู่ในช่วง USD642/ton-USD659/ton จากเดิม USD676/ton ในปี 2023 และ 3) EBITDA margin จะอยู่ในช่วงที่สูงขึ้นที่ 14.6%-14.8% เทียบกับ 13.7% ในปี 2023

ราคาหุ้นลดลง 11% และ underperform SET 6% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสอดคล้องกับกำไรสุทธิ 2Q24 ที่อ่อนตัว เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ล่าสุดซื้อขายที่ 2024E PER ที่น่าดึงดูดที่ 20.1x (ประมาณ -1.6SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ระยะยาว) โดยเราเชื่อว่าบริษัทจะมีการทำการควบรวมกิจการ (M&P) เข้ามาเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ดีลใน 2H24E