เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2025E ที่ 33.00 บาท (เดิม 38.00 บาท) อิง 2025E PER ที่ 24.1x (-1.0SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ระยะยาว) เราประเมินว่าบริษัทจะรายงานกำไรที่อ่อนแอใน 3Q24E ที่ 804 ล้านบาท (-39% YoY, -45% QoQ) โดยลดลง YoY หลักๆจากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่ ลดลง QoQ ตามแนวโน้มปริมาณขายที่อ่อนตัวและการรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัท PT. Fajar Surya Wisesa Tbk. (Fajar) ที่สูงขึ้น (หลังบริษัทเพิ่มสัดส่วนถือครองเป็น 99.7% ตั้งแต่ 30 ส.ค.2024) อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าไตรมาสนี้จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว และบริษัทจะเห็นปริมาณขายที่ฟื้นตัว QoQ จากอุปสงค์การสะสมคลังสินค้า (stocking) ตามปัจจัยฤดูกาล อีกทั้ง บริษัทน่าจะเห็นต้นทุนที่ต่ำลงจากผลกระทบที่ล่าช้า (lagged effect) นอกจากนี้ เราคาดว่าบริษัทน่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนซึ่งน่าจะทำให้ยอดส่งออกของ SCGP โดยรวมสูงขึ้น
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E/2025E ลง 14%/10% เป็น 5.1-5.9 พันล้านบาท เทียบกับ 5.2 พันล้านบาทในปี 2023 หลักๆเพื่อสะท้อน 1) ปริมาณขายรวมที่ลดลงอยู่ในช่วง 5.7-5.9 ล้านตัน (mt) จากเดิม 5.8-6.0 mt ในปี 2024E-2025E 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลงอยู่ในช่วง 18.0%-18.3% จากเดิม 18.7% ตามต้นทุนที่สูงขึ้นในขณะที่ เราปรับราคาขายเฉลี่ย (blended ASP) ขึ้นเล็กน้อย 1.0%-1.1% อยู่ในช่วง USD649/ton-USD665/ton และ 3) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A-to-revenue ratio) ที่สูงขึ้นในช่วง 12.1%-12.3% จากเดิม 11.9%-12.0%
ราคาหุ้นลดลง 10% และ underperform SET 14% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ล่าสุดซื้อขายที่ 2025E PER ที่น่าดึงดูดที่ 20.6x (ประมาณ -1.6SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ระยะยาว) หากกำไร 3Q24E เป็นไปตามที่เราคาด กำไร 9M24E จะคิดเป็น 79% ของประมาณการกำไรใหม่ของเรา โดยเราเชื่อว่าบริษัทจะเห็นปริมาณขายและ GPM ที่สูงขึ้น QoQ ใน 4Q24E ตามปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบจาก lagged effect ของต้นทุน
กลับสู่ด้านบน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์