เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 29.00 บาท (เดิม 27.00 บาท) อิง SOTP เพื่อสะท้อนการรวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและราคาเป้าหมาย BEM สูงขึ้น หลังบริษัทเซ็นสัญญารับงานกับ BEM เรียบร้อยแล้ว ทำให้งานก่อสร้างมีโอกาสเริ่มได้ตั้งแต่ 3Q24E นี้ สำหรับ 2Q24E เราประเมินกำไรสุทธิที่ 490 ล้านบาท (+1% YoY, +305% QoQ) ขยายตัว YoY หนุนโดยงานใหญ่โดยรวม progress มากขึ้น โดยเฉพาะทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายสีม่วงใต้ และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงจากการปรับรายการระหว่างกัน แต่ถูก offset บางส่วนจาก SG&A สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายโครงการ JV ขณะที่กำไรปรับตัวดีขึ้น QoQ หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม CKP หลังสถานการณ์ El Nino ทยอยคลี่คลายและเริ่มเข้าฤดูฝน และมีอานิสงส์เงินปันผลจาก TTW

เราคงกำไรปกติปี 2024E ที่ 1.8 พันล้านบาท (+25% YoY) และคงกำไรปกติปี 2025E จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+17% YoY) โดยเรามีการปรับรายได้ก่อสร้างปี 2025E ขึ้น +3% แต่ถูก offset เล็กน้อยจากส่วนแบ่งกำไร BEM ลดลงหลังค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้นในช่วงต้น สำหรับ 3Q24E เบื้องต้นคาดการณ์แนวโน้มกำไรจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง YoY, QoQ

ราคาหุ้นกลับมา underperform SET -7% ใน 3 เดือน จาก noise ปัจจัยทางการเมือง ทั้งนี้เราคงมุมมองบวกต่อ CK จาก backlog ปัจจุบันทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ราว 2.2 แสนล้านบาท จากสิ้น 2Q24E ที่ 1.1 แสนล้านบาท หลังการรวมงานสายสีส้ม ซึ่งจะช่วย secure รายได้อย่างน้อยใน 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้มี catalyst จากการเริ่มเปิดขายซองโครงการทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย 20 ส.ค. นี้ และความคืบหน้าโครงการ Double Deck ของ BEM ใน 2H24E-1H25E