เราคงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2025E ที่ 230.00 บาท (เดิม 250.00 บาท) อิงวิธี SOTP เราประเมินว่าบริษัทจะรายงานกำไรสุทธิ 3Q24E ที่อ่อนแอที่ 995 ล้านบาท (-59% YoY, -73% QoQ) โดยกำไรอ่อนตัวในทุกธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่เห็นส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ (olefins spread) ที่อ่อนแอต่ำกว่าระดับคุ้มทุนของบริษัท สำหรับภาพรวม 4Q24E เราเชื่อว่าโครงการ LSP Petrochemical Complex (LSP) จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามแผนล่าสุดของบริษัท อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกเราคาดว่า SCC จะพยายามควบคุมอัตราการใช้กำลังการผลิต (utilization rate) ของ LSP และจะทำการผลิตเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเนื่องจาก olefins spread ที่ต่ำกว่าปกติ โดยเรามองด้วยว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้นในปี 2025E
เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E/2025E ลง 49%/34% เป็น 8.5/13.3 พันล้านบาท เทียบกับ 2.59 หมื่นล้านบาทในปี 2023 หลักๆเพื่อสะท้อนสมมติฐานที่เปลี่ยนแปลงไป คือ 1) ปริมาณยอดขายปิโตรเคมีรวม (PE, PP, PVC) ที่ลดลง 10%-13% เพื่อสะท้อนการเร่งการผลิตของโครงการ LSP ที่ล่าช้า 2) Olefins spread ที่อ่อนตัวลง โดยเราคาด HDPE spread จะอยู่ในช่วง USD335/t-USD360/t จากเดิมที่ USD387/t-USD400/t 3) EBITDA margin ที่ลดลงของธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) และ 4) รายได้จากธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง (SCGP) ที่อ่อนตัว
ราคาหุ้นปรับตัวลง 8% และ underperform SET -12% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนแนวโน้ม olefins spread ที่อ่อนตัวลง ราคาปัจจุบันสะท้อน 2025E PBV ที่ 0.73x (ประมาณ -2.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) หากกำไร 3Q24E เป็นไปตามที่เราคาด กำไร 9M24E จะคิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรใหม่ของเรา ทั้งนี้ เราเชื่อว่าบริษัทจะเห็นกำไรที่ฟื้นตัว QoQ ได้หลักๆจากรายเงินได้ปันผลตามฤดูกาล
กลับสู่ด้านบน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2024 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์