เรายังคงแนะนำ “ขาย” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 1.80 บาท (เดิม 2.20 บาท) อิง 2025E PER ที่ 12.0 เท่า (-0.25SD below 5-yr average PER) เนื่องจากเราปรับประมาณการกำไรลง โดย LPN รายงาน 4Q24 ขาดทุนสุทธิ 116 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน -45 ล้านบาท ผลการดำเนินงานปกติจะขาดทุน -68 ล้านบาท (4Q23/3Q24 มีกำไรปกติที่ +17/+46 ล้านบาท) ต่ำกว่า consensus ที่ทำไว้กำไร +16 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากทั้งรายได้ที่ยังคงต่ำ และ GPM ยังลดลงอีก โดยธุรกิจอสังหาฯ มี GPM ลดลงเป็น 11.4% (4Q23 = 18.1%, 3Q24 = 17.5%) จากการใช้โปรโมชั่นลดราคาเพื่อกระตุ้นการขาย ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2024 มีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท -69% YoY และกำไรปกติ 155 ล้านบาท -56% YoY
เราปรับประมาณการกำไรปี 2025E ลง -18% เป็น 218 ล้านบาท +40% YoY ยังคงเป็นกำไรในระดับต่ำต่อเนื่องและยังมี downside ได้อีก จากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระดับล่างที่ยังอ่อนแอ โดย ณ สิ้นปี 2024 มี backlog รวมที่ 1.7 พันล้านบาท (ลดลงจาก 3Q24 ที่มี backlog 2.2 พันล้านบาท) และในปี 2025E มีคอนโดใหม่เริ่มโอนเพียง 1 โครงการ เทียบปี 2024 ที่มี 2 โครงการ รวมถึงแนวโน้ม GPM จะยังทรงตัวต่ำจากการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อผลักดันการขายสินค้าในสต็อก
ราคาหุ้น underperform SET -8% ในช่วง 3 เดือน จากกำไรที่ลดลง แต่กลับมา outperform SET +10% ในช่วง 1 เดือน หลังในช่วงปลายเดือน ม.ค.25 LPN อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 100 ล้านบาท ไม่เกิน 45 ล้านหุ้น (imply ราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.22 บาท) โดยถึงวันที่ 27 ก.พ.25 มีการซื้อหุ้นคืนรวม 9.2 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 19.7 ล้านบาท ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำ “ขาย” จากกำไรปี 2025E ที่ยังคงต่ำต่อเนื่อง และยังมี downside ได้อีก