เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ERW ปรับราคาเป้าหมายปี 2024E ลงมาอยู่ที่ 5.80 บาท อิง DCF (WACC 7.6%, terminal growth 2.5%) จากเดิมที่ 6.50 บาท จากการปรับกำไรลดลง โดยเราคาดว่า ERW จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +13% YoY และ +32% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาดเดิมที่ราว 250 ล้านบาท เพราะ RevPAR โตได้น้อยกว่าคาด ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าคาด ขณะที่มีกำไรสุทธิ 4Q23E อยู่ที่ 181 ล้านบาท ลดลง -24% YoY แต่เพิ่มขึ้น +22 QoQ เพราะมีค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มเติมในการ setup และ pre-opening โรงแรมที่ญี่ปุ่นอีกราว -35 ล้านบาท โดย RevPAR เพิ่มขึ้น +8% YoY และ +7% QoQ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าคาด (เดิมคาดเพิ่มขึ้น +15% QoQ) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ช่วง High season ส่วนนึงเพราะเจอเหตุการณ์กราดยิงที่พารากอนทำให้นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาด ประกอบกับมีฐานสูงจากไตรมาสก่อนที่มี event เยอะมากเข้ามาช่วยหนุน
เรามีการปรับประมาณการกำไรปกติปี 2023E-2024E ลง 9-13% จากการปรับ RevPAR ลง และปรับค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงแรมที่ญี่ปุ่น ทำให้ได้กำไรปกติปี 2023E อยู่ที่ 710 ล้านบาท ฟื้นตัวได้ดีมากจากปี 2022 ที่ขาดทุนสุทธิที่ -224 ล้านบาท ส่วนกำไรปี 2024E ยังมีแนวโน้มโตได้ที่ +15% YoY จากการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เราคาดว่ากำไรปกติ 1Q24E จะเพิ่มขึ้นได้ทั้ง YoY/QoQ จากนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มฟื้นตัวได้ดีและยังเป็นช่วง High season ของไทย
ราคาหุ้น ERW เพิ่มขึ้น +2% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มฟื้นตัวได้ดี ด้าน valuation ซื้อขาย 2023E EV/EBITDA ที่ 14x (10-yr average EV/EBITDA) ใกล้เคียงกับ CENTEL ที่ 14X (10-yr average EV/EBITDA) แต่ภาพรวมการเติบโตของกำไรปกติใน 4Q23E ของ ERW จะเติบโตได้โดดเด่นกว่า ดังนั้นเราจึงชอบ ERW มากกว่า CENTEL