เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท อิง 2025E PER ที่ 13 เท่า (-0.75SD below 5-yr avg. PER) จากการ update กับบริษัทเรายังคงมองเป็นบวกจาก 1) ตั้งเป้าปี 2025E รายได้โต +10% YoY (เราประเมิน +8% YoY) จากการเติบโตลูกค้าเดิม 7% ซึ่งลูกค้าบางรายมีการขยายตลาดไปต่างประเทศ และมีคำสั่งซื้อซองที่มีฝาเทริน เปิด-ปิด ได้ (spout) เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ต่อซองเพิ่มขึ้น และจากลูกค้าใหม่อีก 3%, 2) GPM จะดีขึ้นจากปี 2024 ที่ 24.7% (เราประเมิน GPM ปี 2025E ที่ 25.1%) จากแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวต่ำ, 3) SPV ที่เวียดนามจะเติบโตดีขึ้นราว 20% จากการขยายฐานลูกค้าเดิมและใหม่, 4) Star Union (ร่วมทุนกับ TU) จะเริ่มเดินเครื่องผลิภายใน 2Q-3Q25E

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2025E เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่เป็น 306 ล้านบาท +9% YoY จากรายได้ที่จะเติบโตตามการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าเดิม, การขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงยังคงได้อานิสงส์ต่อเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตเครื่องจักร spout ส่วน GPM จะดีขึ้นจาก u-rate ที่สูงขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบที่ยังทรงตัวต่ำ และจะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มจาก SPV ที่เวียดนาม รวมถึง Star Union ที่จะเริ่มมีกำไรได้ตั้งแต่ 3Q25E

ราคาหุ้น outperform SET +4%/+13% ในช่วง 1 และ 3 เดือน จากกำไร 4Q24 และปี 2024 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทั้งรายไตรมาสและรายปี ทั้งนี้ เรายังแนะนำ “ซื้อ” จากกำไรปี 2025E ที่จะยังสดใสทำสถิติสูงสุดใหม่ และแนวโน้มกำไรรายไตรมาสจะยังคงเติบโต YoY ได้ต่อเนื่องทุกไตรมาส หลังจาก 4Q24 ที่เติบโต YoY เป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกัน ด้าน valuation น่าสนใจเทรด 2025E PER ที่ 7.6 เท่า คิดเป็น -1.25SD below 5-yr avg. PER และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม Packaging ที่ 16.0 เท่า นอกจากนั้น ตั้งแต่ 1 เม.ย.25 จะเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืน ถึงวันที่ 30 ก.ย.25 โดยมีวงเงินซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.4% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (คิดเป็นราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ย 2.50 บาท)