"บล. ดาโอ ชี้ ตลาดหุ้นไทยตกหนักและต่อเนื่อง นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน รวมถึงนโยบายการค้าของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จับตา 4 เรื่องสำคัญ จะทำให้หุ้นไทยฟื้นได้ปีนี้ แนะการลงทุน พิจารณาความแข็งแรงและการอยู่รอดของบริษัทเป็นสำคัญ อย่ามองเรื่องราคาอย่างเดียว มองโอกาสสินทรัพย์ต่างประเทศเป็นทางเลือกลงทุน"
นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงมาตั้งแต่ ต.ค. ปีที่ผ่านมา ดัชนีฯ ลงมาแตะ 1236 จุด จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอก ผลประกอบไตรมาส 4/ 2567 ที่คาดว่าจะออกไม่ดี ทำให้ราคาหุ้นของหุ้นแต่ละตัวที่ผลประกอบการไม่ค่อยดี ปรับตัวลงค่อนข้างเยอะ รวมถึงปัจจัยเรื่องกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ผลักดันออกมาก็มีผลต่อตลาด
อย่างเรื่องการควบคุมเรื่องของการปล่อยกู้ของบริษัทหลักทรัพย์ (Margin loan) และราคาหุ้นที่ลดลงต่อเนื่อง มีส่วนให้มีการขายหุ้น ที่ใช้ Margin Loan หลายตัวออกมา ทั้งนี้ เราเห็นว่าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ออกมาตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงปัจจุบัน มีส่วนที่ทำให้ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยลดลง
“ดัชนีหุ้นไทยตกลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราอยู่ในขาลงมาตลอดแบบเรียกว่า ‘ไม่โงหัวเลย’ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2567 เป็นต้นมาเลย” นายมงคล กล่าว อย่างไรก็ตามในปี 2568 จะเป็นปีที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นความเสี่ยงทั้งหมดในความเสี่ยงยังเป็นโอกาส แต่ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาได้หรือไม่ในปีนี้มี 4 เรื่องที่ต้องติดตาม
“สัญญาณชีพเศรษฐกิจไทย มันไม่ได้มีสัญญาณว่าจะฟื้นตัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะนโยบายรัฐบาลเองยังไม่ได้ยังนโยบายที่มีผลต่อเศรษฐกิจออกมาเลย เงินที่รัฐบาลจะให้ประชาชนก็ยังไม่ได้แจกทั้งหมด ดังนั้นมันเป็นเหตุผลอันหนึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นลบไปเลย และ Fund flow ก็ไหลออกจากตลาด” นายมงคล กล่าว
“อย่าซื้อหุ้นเพราะราคาถูกอย่างเดียว” นายมงคล กล่าวต่อไปว่า หุ้นไทยที่ปรับตัวลงมามากจนมองว่ามีระดับราคาที่ถูกแต่ซื้อแล้วหุ้นก็ไม่ขึ้นว่า การลงทุนจากนี้เป็นต้นไป ให้พิจารณาหุ้นที่มีโอกาสแห่งความอยู่รอดในอนาคตเป็นสำคัญ ให้ดูว่าธุรกิจนั้นสามารถอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลง (Transform) ได้ตลอดไปแค่ไหน บางธุรกิจเกิดความเสียหายแม้ไม่ถึงขั้นล้มละลาย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวให้ฟื้นกลับขึ้นมาได้ หุ้นเหล่านี้อาจจะไม่เหมาะกับการลงทุน
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยเวลานี้ส่วนใหญ่นักลงทุนประมาณ 90% เลือกลงทุนระยะสั้น เพราะสภาพตลาดไม่เอื้อต่อการลงทุนระยะยาว กลยุทธ์ควรเน้นลงทุนสั้น ๆ ไปก่อน โดยมีหุ้นลงทุนในพอร์ตไม่ต้องมาก ส่วนใครที่คิดจะเก็บหุ้นถือยาวแนะนำให้รอผ่านการขึ้น “XD” รอบนี้ไปก่อน และให้พิจารณาหุ้นที่ดูมีความแข็งแรง และอยู่รอดในระยะยาว โดยหุ้นที่ บล. ดาโอ มองว่ามีความน่าสนใจ และคัดเลือกมา ได้แก่ BDMS, BH, CPALL และ ADVANC
“สภาพตลาดในปัจจุบันแทนที่เราจะมองในเชิงราคาว่า ถูกแล้ว ต่ำแล้ว แต่ต้องกลับไปดูหุ้นที่จะลงทุนว่ามีความแข็งแรงสามารถอยู่รอดได้ตลอดไปหรือเปล่า เราจะเลือกลงทุนโดยใช้ระดับราคาอย่างเดียวไม่ได้นะครับ” นายมงคล กล่าว
“โอกาสกระจายไปลงทุนต่างประเทศ” นายมงคล แนะนำว่า สำหรับนักลงทุนที่ไม่ข้อจำกัดเรื่องประเภทสินทรัพย์ ทาง บล. ดาโอ มีทีมกลยุทธ์การลงทุนสำหรับให้คำปรึกษา วางแผนและคัดเลือกสินทรัพย์ที่น่าสนใจในต่างประเทศ เช่น กองทุนรวม ทองคำ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมถึงปรับพอร์ตลงทุนด้วย เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนเพื่อเอาชนะตลาดที่ผันผวนและมีความไม่แน่นอน และเป็นทางเลือกกับผู้ลงทุนที่ไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องเงิน สินทรัพย์ หรือสไตล์การลงทุน
DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์