logo
search
flag-th
share-icon

ภาษีศุลกากร คืออะไร? ประเด็นน่ารู้ ที่มาพร้อมสงครามการค้าของทรัมป์!

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก 25% และเก็บภาษีนำเข้าพลังงานของแคนาดา 10% โดยอาจจะเริ่มประมาณต้นเดือนมีนา หลังถูกระงับไว้ชั่วคราว ด้านเม็กซิโกและแคนาดา ก็ออกมาตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 25% ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่มไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่ารวม 1.55 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 1.07 แสนล้านดอลลาร์)

การขึ้นภาษีตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโกในครั้งนี้ คือการใช้ 'ภาษีศุลกากร' เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้บริโภค แต่ก่อนจะไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ภาษีศุลกากรคืออะไร? 

Facebook 02

ภาษีศุลกากร คืออะไร? 


ภาษีศุลกากร คือ ภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บจากผู้ที่นำเข้าสินค้าต่างประเทศ เข้ามาสู่ตลาดในประเทศ โดยปกติแล้ว ภาษีศุลกากรจะถูกกำหนดให้กับผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น นม หรืออะลูมิเนียม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ภาษีศุลกากรทำให้ผู้ผลิตสินค้าจากต่างชาติต้องเสียเงินมากขึ้นในการแข่งขัน ทำให้สินค้าจากต่างประเทศน่าดึงดูดน้อยลง เมื่อเทียบกับสินค้าในประเทศ เพราะผู้นำเข้าสินค้าต้องโยนภาระต้นทุนทางภาษีที่เพิ่มขึ้นไปให้กับผู้บริโภคด้วยการขึ้นราคา  

= ภาษีศุลกากร ทำให้สินค้าต่างประเทศ ราคาแพงกว่าสินค้าในประเทศ เพื่อทำให้คนหันมาบริโภคสินค้าในประเทศมากขึ้น 

โดยปกติแล้ว ภาษีศุลกากรจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ เช่น สหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าเหล็ก 25% → ผู้นำเข้าของอเมริกา ที่ต้องการนำเหล็กจากแคนาดามูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่สหรัฐฯ จะต้องจ่ายเงิน 250,000 ดอลลาร์ ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ 

 

ทำไมรัฐบาลจึงใช้มาตรการภาษี? 


โดยทั่วไป ภาษีศุลกากรจะถูกกำหนดขึ้นเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศที่มีมูลค่า และมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ หรือถ้าคู่ค้าต่างประเทศอุดหนุนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ของตนเอง (เช่น ผลิตภัณฑ์นม) รัฐบาลก็อาจเรียกเก็บภาษีศุลกากร เพื่อชดเชยเงินอุดหนุนเหล่านั้น เช่น  

ประเทศ A ต้องการส่งเสริมการผลิตหลอดไฟในประเทศ ประเทศ A จึงเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากต่างประเทศ เป้าหมายคือการทำให้หลอดไฟจากต่างประเทศมีราคาแพงขึ้น เพื่อให้คนสนใจซื้อหลอดไฟในประเทศมากขึ้น แล้วเงินที่ได้จากการเก็บภาษี ก็จะเข้าสู่คลังของรัฐบาล เพื่อนำไปใช้ในการบริหารงบประมาณ ซึ่งทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะนำเงินจากการเก็บภาษีนำเข้าไปชดเชยในส่วนภาษีที่เขาตั้งใจจะลดลง 

Facebook 03

ผลกระทบของภาษีศุลกากร 


ภาษีศุลกากร ถือเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ เพราะทำให้ราคาสินค้าและบริการต่าง ๆ สูงขึ้น ภาษีศุลกากรเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อผู้คน เพราะเมื่อรัฐบาลกำหนดภาษีศุลกากร ธุรกิจต่าง ๆ ก็มักจะโยนภาระต้นทุนนี้ให้ลูกค้า และอาจทำให้รัฐบาลต่างประเทศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ จนนำไปสู่สงครามการค้าได้

สมมติว่า สหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาทั้งหมด 25% บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ปกติซื้อสินค้าในราคา 100 ดอลลาร์จากผู้ผลิตในแคนาดา ก็ต้องจ่ายเงิน 100 ดอลลาร์ สำหรับชิ้นส่วนดังกล่าว และจ่ายเพิ่มอีก 25 ดอลลาร์ ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ

บริษัทอเมริกันที่ไม่อยากใช้กำไรของตัวเองเพื่อจ่ายค่าภาษีจำนวน 25 ดอลลาร์นี้ ก็อาจจะปรับราคาสินค้าขึ้น 25 ดอลลาร์แทน นอกจากนี้ บริษัทอาจหาซัพพลายเออร์รายอื่นที่สามารถขายชิ้นส่วนได้ในราคาที่ถูกกว่า หากบริษัทในอเมริกาพบซัพพลายเออร์รายอื่น ผู้ผลิตในแคนาดาก็จะสูญเสียลูกค้าไป หรือถูกบังคับให้ลดราคาให้เท่ากับ หรือต่ำกว่าราคาของซัพพลายเออร์รายใหม่ 

หากบริษัทอเมริกันไม่สามารถหาซัพพลายเออร์รายอื่นได้ บริษัทก็อาจพยายามเจรจาต่อรองราคาที่ถูกกว่ากับบริษัทแคนาดา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของผู้ผลิตในแคนาดา ดังนั้น เพื่อปกป้องธุรกิจ บริษัทแคนาดาอาจลดค่าจ้างของพนักงาน อาจเลิกจ้างพนักงาน หรือลงทุนในเทคโนโลยีที่แทนที่พนักงานได้

 

Facebook 04

ทำไม ‘ทรัมป์’ เก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา 25% 


ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกทั้งหมด 25% และภาษีนำเข้าพลังงานของแคนาดา 10% จนกว่าทั้ง 2 ประเทศจะเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยบนพรมแดนของตนเอง และหยุดการนำยาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิล เข้าสู่สหรัฐฯ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังอ้างถึงความไม่สมดุลในการค้าระหว่าง 2 ประเทศนี้  

ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. ทรัมป์ ได้ประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกไว้ 1 เดือน แคนาดาเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันต่างชาติรายใหญ่ที่สุดให้กับสหรัฐอเมริกา คิดเป็นประมาณ 60% ของการนำเข้าทั้งหมด โดยมีโรงกลั่นในภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ นักวิเคราะห์เตือนว่า ภาษีศุลกากรอาจกระตุ้นให้บริษัทในแคนาดาลดการขนส่ง และยังอาจทำให้ราคาน้ำมันสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอีกด้วย 


รัฐบาลแคนาดาตอบสนองอย่างไรบ้าง? 


ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด เดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเจรจาไม่ให้ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของแคนาดา ขณะเดียวกันรัฐบาลกลางแคนาดาก็กำลังวางแผนให้เงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์ แก่คนงานและธุรกิจต่าง ๆ แบบเดียวกับในช่วงที่เกิดการระบาดโควิด  

รัฐบาลแคนาดาคาดว่า ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ในแคนาดาเลิกจ้างคนงานจำนวนมาก ลดการผลิตลง และทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จะสูญเสียรายได้ และบางแห่งอาจต้องปิดกิจการ โดยรัฐออนแทรีโออาจสูญเสียตำแหน่งงานถึง 500,000 ตำแหน่ง เลยทีเดียว 

 

ธุรกิจแคนาดาจะตอบสนองอย่างไร ? 


ภาษีศุลกากร ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่บริษัทไม้ในบริติชโคลัมเบีย ไปจนถึงผู้ผลิตน้ำมันในอัลเบอร์ตา เกษตรกรที่ทำงานในฟาร์ม และคนงานขุดแร่โพแทช ผู้ผลิตในออนแทรีโอและควิเบก รวมไปถึงบริษัทอาหารทะเล 

แคนาดามีเศรษฐกิจการส่งออกไปสหรัฐฯ ประมาณ 75% คาดว่าภาษีศุลกากรจะกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากผู้ผลิต ผู้ซื้อ และซัพพลายเออร์ ไม่สามารถรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 25%ได้ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมบางรายเรียกร้องให้มีมาตรการตอบโต้ ในขณะที่บางรายกล่าวว่า แคนาดา ควรหาทางออกโดยการเจรจา ส่วนบางรายก็ยังคงดำเนินการเพื่อกระจายความเสี่ยงของพันธมิตรทางการค้าของตน 


ที่มา : The Globe and Mail (02/02/2025) 

กลับสู่ด้านบน

combo-icon
certified

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

DAOL Contact Center 0 2351 1800contactcenter@daol.co.th

DAOL Contact Center Address เลขที่ 87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้นที่ 18 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

logo

and our member companies

บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรีท แมเนจเมนท์บริการสินเชื่อ

©2025 บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สงวนลิขสิทธิ์