News Flash
นักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุด (9-15 มิ.ย.) ลดลง -11% WoW จากมาเลเซียและเกาหลี และยังหดตัวลง -23% YoY รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-15 มิ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 504,393 คน (-11% WoW/-23% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 72,056 คน โดยประเทศที่ลดลงเรียงตามลำดับ คือ 1) มาเลเซีย 74,626 คน (-35% WoW/-32% YoY) 2) เกาหลีใต้ 20,599 คน (-17% WoW/-29% YoY) และ 3) อินเดีย 49,109 คน (-3% WoW/-0.2% YoY) ขณะที่ประเทศที่เพิ่มขึ้นเรียงตามลำดับ คือ 1) สิงคโปร์ 24,722 คน (+27% WoW) และ 2) จีน 68,028 คน (+10% WoW/-42% YoY) โดยนักท่องเที่ยวที่ลดลงมาจากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ชะลอตัวด้านการเดินทางจากการการสิ้นสุดวันหยุดต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และนักท่องเที่ยวยุโรปที่ลดลงก่อนเข้าสู่ Summer holiday ในเดือน ก.ค. ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนและสิงคโปร์เพิ่มขึ้นจากการเริ่มปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในประเทศจีนและสิงคโปร์ สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 มิ.ย. 25 ทั้งสิ้น 15,521,271 คน ลดลง -4% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)
Implication
เรามองเป็นกลางต่อกลุ่มท่องเที่ยวแม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมลดลงแต่จีนเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียและเกาหลีที่หดตัวลงแรง ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเริ่มฟื้นตัวได้บ้างเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงปิดเทอม (ต้นเดือน ก.ค.-ปลายเดือน ส.ค. 25) ทำให้เราคาดว่าสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวได้ต่อได้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้ในประเทศ ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวรวม YTD ยังคงหดตัวลง -4% YoY โดยเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าสู่ช่วง Low season ของไทย
คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวม/นักท่องเที่ยวจีนปี 2025E ที่ 34.5 ล้านคน/5 ล้านคน เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2025E จะอยู่ที่ 34.5 ล้านคน ลดลง -3% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 5 ล้านคน ลดลง -26% YoY ขณะที่ความเสี่ยงในประเทศเริ่มมากขึ้นจากปัจจัยเรื่องการเมืองซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่เราคาดได้
Valuation/Catalyst/Risk
เราให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่ม เราเลือก MINT
MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2025E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่ 2Q-3Q25E จะเป็นช่วง High season ที่ยุโรป และได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่ากลุ่ม ประกอบกับที่ยุโรปเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก