• คาดดัชนีฯ แกว่งตัวลง ในกรอบ 1173- 1185 จุด กดดดันจากการปรับลดเป้า GDP

• ตลาดหุ้นไทย ยังคงอยู่ในช่วงการปรับฐาน จากปัจจัยเรื่องการปรับลดเป้า GDP ปี 68 ลงเหลือโตเพียง 1.3-2.3% ซึ่งปัจจัยดังกล่าว อาจนำไปสู่การปรับลดประมาณการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนลงตามมาหลังจากนี้ จากเดิม 20% อาจเหลือเพียง 5-9% (DAOL)

• สถานการณ์การค้าติดตามการประกาศกำหนดอัตราภาษีนำเข้ารายประเทศ ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และรอการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐฯ-จีนเร็วๆ นี้ ซึ่งการเจรจาการค้ารอบใหม่จะจัดขึ้นที่ประเทศเหลีใต้ .... สถานการณ์การค้า กำลังดีขึ้นตามลำดับ

• ข่าวลบวานนี้(19)....สภาพัฒน์ฯ ประกาศ GDP ประเทศไทยไตรมาสที่ 1/68 ขยายตัวที่ 3.1% (ตลาดคาด 2.9-3.1%) แรงหนุนจากการส่งออกและการลงทุน+ใช้จ่ายภาครัฐฯ ทั้งนี้ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยทั้งปี ‘68 อยู่ที่ 1.8%  และคาด GDP Q2/68 ชะลอตัวเล็กน้อย ส่วนมาตรการภาษี "ทรัมป์" เริ่มเห็นผลชัด Q3 ....  ตัวเลขที่ยังต้องติดตาม คือ ตัวเลขของภาคเอกชน การบริโภคของภาคเอกชน(Private Consumption) มีผลต่อ GDP (Contribution to GDP) น้อยลงตามลำดับ จาก 1Q-24 ที่ 3.5% เหลือเพียง 1.5% ในไตรมาสนี้ ซึ่งน่าจะมาจากกำลังซื้อที่ยังแผ่วบาง (สะท้อนไปที่ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและอาหารที่ปรับตัวลง) ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน (Private Investment) ขยายตัวติดลบด้วย

• รัฐบาลไทยเลื่อนแผนแจกเงินสดไม่มีกำหนด รัฐบาลกำลังพิจารณาจะจัดสรรงบประมาณ 157,000 ล้านบาท โครงการเป้าหมาย ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ การขนส่ง การท่องเที่ยว กองทุนหมู่บ้าน และการศึกษา  ……  เรามองเป็นข่าวดีของตลาด เพราะการผันงบประมาณแบบนี้ จะมีผลตรงต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานมากกว่าการแจกเงิน (หลังๆมา ไม่ค่อยได้ผล)

• บอร์ด BOI อนุมัติส่งเสริมลงทุน 1 แสนลบ.ประกอบด้วย กิจการ Data Center 5 โครงการ และ กิจการพลังงานหมุนเวียน 2 โครงการ นอกจากนี้ ได้เห็นชอบ  มาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการด้านการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยกิจการด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ กิจการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ สวนสนุก ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ศูนย์หัตถกรรมไทย พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์เปิด ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ หอประชุมขนาดใหญ่ ท่าเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) บริการที่จอดเรือท่องเที่ยว สนามแข่งขันยานยนต์ กระเช้าไฟฟ้าและรถรางไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว หากเป็นการลงทุนตั้งสถานประกอบการในเมืองรอง 55 จังหวัด จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม จากเดิม 5 ปี เป็น 8 ปี มติดังกล่าว 

• Event วันนี้ : การประชุมครม.

 

• ตลาดยังพักตัว(ปรับฐาน) เรารอดูความคืบหน้าในการเจรจาการค้า มาตรการเศรษฐกิจของไทย

• หุ้นที่ราคาลงมามาก น่าสนใจในการหาจังหวะเข้าซื้อ เพื่อเก็งกำไรรอบสั้นๆ ได้แก่  ITC, IVL, ADVANC, LH, KBANK

• หุ้นในพอร์ตวันนี้  เรานำ DELTA* ออก และนำ KBANK, TIDLOR* เข้ามา หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย KBANK (10%), TIDLOR*(10%), TRUE*(10%), RCL*(10%)

 

( + ) ADVANC (ซื้อ/เป้า 310.00) อยู่ระหว่างเจรจาซื้อลูกค้า NT

 

( + ) SJWD (ซื้อ/เป้า 11.30 บาท) ผลกระทบจากสงครามการค้ายังไม่มาก, 2Q25E จะยังโต YoY ได้ดี

( - ) NER (ถือ/เป้า 5.00 บาท) แนวโน้มเห็นผลกระทบ tariffs มากขึ้นใน 2H25E, เลื่อนแผนสร้าง รง. ใหม่

( 0 ) MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) เป้าหมายยังใกล้เคียงคาด, 2Q25E จะทำจุดสูงสุดของปี

( 0 ) BGRIM (ซื้อ/เป้า 20.00 บาท) ธุรกิจพัฒนาในกรอบแผนงาน เตรียม COD โครงการใหม่เพิ่มเติม

( 0 ) OR (ขาย/เป้า 12.50 บาท) คาดกำไรชะลอตัวใน 2Q25E ตามปริมาณขายและ GP/litre ที่ลดลง